นิวส์ คอนเน็คท์ - จุรินทร์ รุก! เจรจาทวิภาคี 4 ประเทศ ก่อนเป็นประธานประชุม RCEP 16 ประเทศแบบเต็มคณะ เชื่อวงเจรจาจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อการสร้างบรรยากาศการค้าโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการเปิดประชุมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) RCEP ในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศบวกกับประเทศสมาชิกอีก 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย แบบเต็มคณะวันที่ 2-3 สิงหาคม 2562

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือแบบทวิภาคีกับประเทศคู่เจรจา RCEP ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 ในโอกาสแนะนำตัวในการเข้ารับตำแหน่งและโอกาสมาเป็นประธานการประชุม ซึ่งแต่ละประเทศต่างตอบรับที่จะร่วมมือกับไทยย่างเต็มที่เพื่อผลักดันให้การเจรจาจบภายในสิ้นปีนี้ตามที่ตั้งเป้าไว้

รายงานข่าวแจ้งว่า ประเด็นเจรจาส่วนใหญ่สมาชิกให้ความสนใจกับประเด็นการเจรจาของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าการลงทุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทรัพย์สินทางปัญญา กฎถิ่นกำเนิด เป็นต้น สำหรับการปฎิบัติหน้าที่ประธานการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องท้าทายโดยเฉพาะการทำความเข้าใจในประเด็นการเจรจาและท่าทีของแต่ละประเทศสมาชิกที่แตกต่างกันอย่างมาก แต่วาระนี้คือโอกาสที่จะประสานความร่วมมือสมาชิก 16 ประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้เพื่อความสำเร็จตามที่ประเทศทั้งหมดได้แถลงความร่วมมือไว้ในการประชุมผู้นำอาเซียนมื่อปีก่อน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าวงเจรจาเข้าใจปัญหาท่ามกลางสงครามทางการค้าของประเทศใหญ่ทำให้แต่ละประเทศต่างมีเงื่อนไขดังนั้นต้องมีความระมัดระวังขณะเดียวกันทีมไทยก็จะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบและรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าต้องการทำข้อตกลงเพื่อการขยายประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันของประเทศสมาชิกทั้ง 16 ประเทศ ซึ่งขณะนี้ดำเนินมากว่า 7 ปีแล้วแต่ก็ยังอยู่ในขั้นการเจรจาเพราะทุกประเทศต่างมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขที่ต่างก็สร้างขึ้นมาจนยากต่อการหาข้อสรุปได้ จึงมีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดข้อสรุปสำเร็จร่วมกันในสิ้นปี 2562 นี้

และในวงเจรจาทุกประเทศต่างรับรู้ว่าการค้าโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายแต่กลุ่มประเทศอาร์เซ็ปนั้นมีผู้บริโภคกว่าครึ่งของประชากรโลกจึงจำเป็นต้องเร่งสรุปผลเจรจาโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์และความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกในการสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอันจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อการสร้างบรรยากาศการค้าโลก ส่วนการประชุมสำคัญของวันที่ 2 สิงหาคม คือจะมีการประชุมรัฐมนตรีพาณิชย์ของประเทศอาเซียน 10 ประเทศก่อนจากนั้นวันที่3 สิงหาคม จะเป็นการประชุมแบบเต็มคณะ 16 ประเทศ