Phones





“เอกา โกลบอล” ชี้ตลาดแพ็กเกจจิ้งสดใส ยอดขายบรรจุภัณฑ์ยืดอายุพุ่ง

2024-05-13 18:57:49 89



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – “เอกา โกลบอล” มองตลาดอาหารสดใส หลังพ้นช่วงสต็อกล้นตลาดแล้ว เผยยอดขายบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รับอานิสงส์ภาคท่องเที่ยวฟื้นเต็มที่ หนุนลูกค้าสายการบินออเดอร์แน่น ขณะที่โรงงานใหม่ที่เมืองปูเน่ อินเดีย เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว มั่นใจยอดขายปี67 โต 10 – 15%  
 
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดโลกปี 2567 ยังคงเผชิญกับปัจจัยและความท้าทายรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เศรษฐกิจประเทศจีนที่ยังไม่ค่อยดีนัก ประกอบกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศยังไม่คลี่คลาย และปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการขนส่ง และต้นทุนด้านพลังงานและการผลิตที่สูงขึ้น เป็นต้น ทำให้ภาคธุรกิจยังต้องเพิ่มความระมัดระวัง
 
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะตลาดอาหาร โดยเฉพาะอาหารพร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) และอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม (Pet-Foods) ซึ่งเป็นกล่มลูกค้าหลักของบริษัทมองว่า ปีนี้มีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา และคาดการเติบโตทั้งปีนี้กว่า 10 – 15% เนื่องจากตลาดได้ผ่านช่วงสินค้าคงคลัง (สต็อกสินค้า) ล้นตลาดไปแล้ว และทั่วโลกกลับมาสั่งซื้อสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
“ตลาดมีสัญญาณการฟื้นตัวของการบริโภคทั่วโลกตั้งแต่ปลาย Q3/66 และสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ในตลาดเองก็กลับมาขยายกำลังการผลิตมากขึ้น เห็นชัดจากออเดอร์บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าทุกรายของ “เอกา โกลบอล” และจากสัญญาณบวกนี้ บริษัทมั่นใจว่ายอดขายทั้งปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 10 – 15% ตามทิศทางตลาดอาหารอย่างแน่นอน” นายชัยวัฒน์ กล่าว
 
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด – 19 ยุติลง โดยขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าสายการบิน (แอร์ไลน์) กลับเข้ามาในปริมาณที่สูงมากอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มโลว์คอสต์แอร์ไลน์ เพราะบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารของบริษัทมีส่วนช่วยเสริมจุดแข็งการให้บริการ และบริหารจัดการสต็อกอาหารบนเครื่อง และลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี
 
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานใหม่ที่เมืองปูเน่ (PUNE) ประเทศอินเดีย ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย พร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา และปัจจุบันมียอดขายเข้ามาแล้ว ทั้งนี้ ตลาดอินเดีย นับเป็นตลาดดาวรุ่งของปีนี้และมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีมากกว่าตลาดอื่น ๆ และประเทศไทย เพราะการบริโภคภายในประเทศมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ อินเดียน่าจะจำนวนประชากรมากกว่าประเทศจีนแล้ว
 
“ตลาดอินเดีย เป็นดาวรุ่งของปีนี้ เป็นตลาดที่ต้องจับตามองและมีโอกาสสูงมาก อินเดียเป็นประเทศที่ไม่พึ่งพาการส่งออก แต่เน้นการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ตลาดมีคาดการณ์จีดีพี อินเดีย ปีนี้น่าจะโตกว่า 5-7% ซึ่งการเปิดโรงงานที่อินเดีย ของเอกา โกลบอล ก็จะได้รับผลดีจากการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศไปด้วย” นายชัยวัฒน์ กล่าว