Phones





อินฟอร์มาฯ จัดใหญ่งาน ‘ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2024’ รับเทรนด์สุขภาพ

2024-08-08 20:50:23 165



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – อินฟอร์มาฯ จัดยิ่งใหญ่ “ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2024” รับกระแสความนิยม “สารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” มาแรงทั่วโลก หลังผู้บริโภคทุกช่วงวัยใส่ใจดูแลสุขภาพเชิงรุก เตรียมขนทัพสุดยอดนวัตกรรมเสริมอาหารและสารสกัด โชว์ในงานแสดงสินค้า ชี้ตลาดสารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไทยมีโอกาสแตะ 2.39 แสนล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเสริมอาหารและสารสกัดกำลังเติบโตอย่างมากในตลาดเอเชีย โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อ้างอิงรายงานจาก Euromonitor International ตลาดสารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Nutraceuticals) ของประเทศไทยมีมูลค่า 1.90 หมื่นล้านบาท ในปี 2565 และคาดว่าจะเติบโตเป็น 2.39 แสนล้านบาท ในปี 2569
 
ดังนั้น การจัดงาน “ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2024” (Vitafoods Asia 2024) งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมส่วนผสมสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ จึงมุ่งตอบโจทย์ความต้องการที่รอบด้าน ทั้งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฯ และผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องไปกับผลการสำรวจไลฟ์สไตล์ของ Euromonitor ที่ผู้บริโภคชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าครึ่งหนึ่งเชื่อว่าจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลกระทบต่อพวกเขามากขึ้นอีก 5 ปีนับจากนี้ เป็นผลมาจากการรับประทานอาหารที่ดีเพื่อการมีสุขภาพที่ดีขึ้นในอนาคต
 
ทั้งนี้ ภาพรวมของ “ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2024” เป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการได้ใช้พื้นที่ของการจัดงานสำหรับการเรียนรู้และสร้างความร่วมมือในระยะยาว รวมทั้งใช้โอกาสนี้ในการจัดหาส่วนผสมและผลิตภัณฑ์คุณภาพจากบรรดาผู้ผลิตและเจ้าของนวัตกรรม และพบปะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเจ้าของธุรกิจและซัพพลายเออร์คุณภาพสูง มากกว่า 600 แบรนด์ที่ร่วมออกบูธแสดงสินค้าและนวัตกรรม จาก 70 ประเทศ มาร่วมจัดแสดงโดยแบ่งเป็นโซลูชันหลากหลายประเภท ได้แก่ ส่วนผสมและวัตถุดิบ (Ingredients & Raw Materials), การผลิตตามสัญญาและฉลากส่วนตัว (Contract Manufacturer & Private Label), ผลิตภัณฑ์ที่มีตราสินค้าและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป (Branded Finished Product), ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, วิตามิน, ส่วนผสมจากธรรมชาติ, สารสกัดสมุนไพร, ผลิตภัณฑ์ทางโภชนาการ, บรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
 
นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมส่วนจัดแสดงนวัตกรรม อาทิ หัวข้อสัมมนาเสริมโนว์ฮาวธุรกิจแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มจากเติบโตและโอกาสธุรกิจเสริมอาหารในเอเชียและออสเตรเลีย การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร การทำฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อผู้สูงอายุ กลยุทธ์การตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงการอัปเดตงานวิจัยเรื่อง Pre-Pro-Postbiotics, Collagen Peptides หรือ สารสกัดที่กำลังมาแรง เช่น Ashwagandha และสารสกัดจากเห็ด เป็นต้น
 
นอกจากนี้ ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2024 ยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนอุตสาหกรรมเสริมอาหารไทย เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบด้านการเกษตร ขยายโอกาสธุรกิจ และผลักดันอุตสาหกรรมเสริมอาหารไทยเติบโตในตลาดโลกพร้อมเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการ บุคคลทั่วไป หรือ นิสิต/ นักศึกษา ร่วมส่งผลงานประกวดนวัตกรรมสารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Vitafoods Asia Nutraceutical Awards 2024 ภายใต้แนวคิด “Local Ingredients to Global Nutraceuticals” พร้อมรับเกียรติบัตรรับรองคุณภาพเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์และสารสกัดให้ไปสู่เชิงพาณิชย์ และโอกาสในการแสดงสินค้าในงาน Vitafoods Asia 2024 โดยตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 10,000 คน
 
ด้าน ดร. กิตติวุฒิ เกษมวงศ์ หัวหน้าทีมวิจัยกระบวนการระดับนาโนเพื่ออุตสาหกรรมเกษตร ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และการนำสารสกัดสมุนไพรและจุลินทรีย์มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของไทย อีกทั้งเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดการนำเข้าวัตถุดิบ และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการ และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตในอนาคต
 
ดร.ภก.ณัฐพศุตม์ ภัทธิราสินสิริ ประธานกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบสำหรับเทคโนโลยีทางการแพทย์และสุขภาพในหลายด้าน ทั้งความเข้มแข็งด้านการศึกษาและการวิจัยด้านชีวภาพทางการแพทย์ (Biomedical Science) ประกอบกับประเทศไทยเป็นแหล่งสำคัญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ จึงเป็นจุดแข็งในการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยให้ไปสู่ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์ประเภท ผลิตภัณฑ์สมุนไพร Functional Foods ชีวเวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ Active Pharmaceutical Ingredients (APIs) เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพที่เข้มแข็ง ซึ่งนอกจากเป็นการลดการนำเข้าของผลิตภัณฑ์ด้านการแพทย์และสุขภาพแล้ว ยังเป็นการพัฒนาประเทศไปสู่เศรษฐกิจฐานความรู้ที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้
 
ขณที่นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสมุนไพรในประเทศไทยมีโอกาสขยายตัวอีกมากจากปัจจัยโครงสร้างประชากรที่มีจำนวนผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ส่งผลให้ความต้องการ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” ในไทยเติบโต โดยมีมูลค่าตลาดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 30% ของกลุ่มผลิตความงาม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
 
เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ และกระตุ้นอุตสาหกรรมเสริมอาหารและสารสกัดของไทยให้เติบโตมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผู้ที่สนใจในนวัตกรรมส่วนผสมอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จะได้เข้าถึงนวัตกรรมใหม่และพบปะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนวัตกรรมส่วนผสมสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยงานจัดระหว่างวันที่ 18 – 20 ก.ย. 2567 ตั้งแต่เวลา 10:00 – 18:00 น. ฮอลล์ 1 – 3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนที่ www.vitafoodsasia.com