นิวส์ คอนเน็คท์ - JKN มั่นใจปีนี้รายได้เข้าเป้าไม่ต่ำกว่า 20% กางแผนครึ่งปีหลังลุยขยายคอนเทนต์ต่างประเทศมากขึ้น มีแผนเสนอซีรี่ส์ละครไทยอีกกว่า 40 เรื่อง ในงาน MIPCOM 2019 ที่ฝรั่งเศส จ่อเพิ่มคอนเทนต์แบรนด์ CNBC ทีวีดิจิทัล 5 ช่องปีนี้

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แผนดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนรุกทำตลาดเพื่อจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ผ่านกลยุทธ์การตลาด ‘ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง’ จากการร่วมออกบูทและจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างกระแสให้กับคอนเทนต์ที่นำไปจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งในปลายปีนี้ JKN มีแผนนำเสนอซีรี่ส์ละครไทย อีกกว่า 40 เรื่อง ในงาน MIPCOM 2019 ที่จัดขึ้นประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย

ส่วนตลาดในประเทศมั่นใจว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดี เนื่องจากลูกค้ากลุ่มทีวีดิจิทัลมีแนวโน้มนำเงินมาลงทุนจัดซื้อคอนเทนต์แทนการผลิตรายการเอง เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับช่องเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการรับรู้รายได้จากการผลิตรายการภายใต้แบรนด์ JKN-CNBC ที่ดำเนินงานภายใต้ บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหัวหอกสำคัญทางธุรกิจที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของ JKN ต่อจากนี้ หลังจากได้เริ่มออกอากาศผ่านช่อง GMM 25 ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเพิ่มคอนเทนต์จากแบรนด์ CNBC เพิ่มเติมอีก 5 รายการ เพื่อออกอากาศผ่านช่องทีวีดิจิทัล ได้แก่ ช่อง 5 ช่องทรูฟอร์ยู ช่องอัมรินทร์ทีวี เป็นต้น คาดว่าจะช่วยผลักดันเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้เติบไม่ต่ำกว่า 20% ได้ตามแผนที่วางไว้

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 698 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.98% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 139 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปินส์ในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดในประเทศไทยที่ลูกค้าสถานีทีวีดิจิทัลยังคงซื้อคอนเทนต์ซีรี่ส์ไปออกอากาศอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 (เมษายน-มิถุนายน 2562) บริษัทฯ ทำรายได้รวมอยู่ที่ 446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 26.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 352 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 68.4 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยสำคัญจากการได้รับผลกระทบภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นที่กดดันต่อกำไรสุทธิในไตรมาสนี้