นิวส์ คอนเน็คท์ – GUNKUL ผลงานครึ่งปีแรกสดใส โชว์รายได้รวมเติบโต 14.43% และกำไรสุทธิแตะระดับ 718.33 ล้านบาท เติบโต 8.53% พร้อมเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ๆทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ขณะที่ Backlog ยังสูงถึง 8,000 ล้านบาท หนุนรายได้ปี 63 เติบโตกว่า 15%

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 63 ของบริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 718.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 3,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.43% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากการลดลงของกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมเนื่องจากกระแสลมอ่อน โดยมีกระแสไฟฟ้าลดลงประมาณ 16.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้จากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในต่างประเทศเต็มจำนวนรวม 4 โครงการ รวม 125.30 เมกะวัตต์ (MW) ได้แก่ โครงการในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 2 โครงการ ขนาดรวม 65.30 เมกะวัตต์ และโครงการในประเทศเวียดนาม ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ทำการเข้าซื้อกิจการตั้งแต่ในเดือนก.พ. 63 เป็นต้นมา จำนวน 2 โครงการขนาดรวม 60 เมกะวัตต์

“ตัวเลขผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทที่รายได้และกำไรจากธุรกิจผลิตและจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า การจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลมเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเกิดจากการผนึกกำลังขับเคลื่อนองค์กรของทีมผู้บริหาร และพนักงานด้วยการเดินหน้าขยายงานในทุกภาคธุรกิจอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันผลประกอบการให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น โดยกลุ่มบริษัทยังเดินหน้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ โดยเฉพาะงาน EPC ที่ยังมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง ซึ่งครึ่งปีแรกก็ทยอยได้งานอย่างต่อเนื่อง” นางสาวโศภชา กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว รวมทั้งบริษัทยังมีโครงการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ อิวาคุนิ ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 98 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งคาดว่าจะ COD ในปี 66

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Kenyir Gunkul Solar (KGS) ประเทศมาเลเซีย ขนาด 29.99 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตติดตั้ง 39.0297 เมกะวัตต์ ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 21 ปี คาดว่าจะ COD ภายในไตรมาส 4/63 และอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม คาดว่าจะสรุปผลได้ภายในไตรมาส 3/63 ขณะที่บริษัทยังมีโครงการรับเหมาก่อสร้างนำสายไฟฟ้าลงดินกับการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ซึ่งร่วมมือกับกรุงเทพธนาคม โดยอยู่ระหว่างอนุมัติการทำแบบร่างและตรวจรับงาน PILOT ROUTE ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/63

สำหรับโครงการขายอุปกรณ์ไฟฟ้า บริษัทได้จดทะเบียนบริษัทย่อยในประเทศเมียนมาร์ เพื่อรองรับโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ 1,000 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างประกวดราคา และรองรับการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้าในประเทศเมียนมาร์ รวมทั้งบริษัทยังเดินหน้าขยายกำลังการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ประมาณ 8,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะทำให้รายได้ปี 63 เติบโตไม่น้อยกว่า 15-20%

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews