นิวส์ คอนเน็คท์ - NOBLE ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ เตรียมเปิดจอง 22-24 ก.พ.นี้ กางแผนปี 64 เปิดตัว 11 โครงการใหม่ ทั้งแนวสูงและแนวราบ ดันยอดขายแตะ 1.6 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งทาง NOBLE ได้เตรียมจะออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน จำนวน 1 รุ่น อายุ 3 ปี สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทุก ๆ 100,000 จะทวีผลคูณ มีผลตอบแทน 4.50% ต่อปี และจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน คาดว่าจะเปิดจองซื้อและให้ผู้ลงทุนขอรับหนังสือชี้ชวนได้ระหว่างวันที่ 22-24 ก.พ. 64 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือน ก.พ. 64 นี้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 63 NOBLE ได้รับการจัดอันดับจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ในส่วนอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ “BBB” และแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” และหุ้นกู้ของบริษัทได้อันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “BBB-” ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งปี 63 ได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยผลประกอบการของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 63 รายได้รวม 7,412 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,238 ล้านบาท และเงินสด 2,653 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของทุนอยู่ที่ 1.28 เท่า ลดลงจากสิ้นปี 2562 ที่อยู่ที่ 1.58 เท่า

โดยบริษัทได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย เนื่องจากโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทเป็นที่ยอมรับในตลาด และเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย โดยสิ้นไตรมาส 3 ปี 63 บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 15,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้า และมีสินค้าพร้อมขายรวมถึงสินค้าที่อยู่ระหว่ากงการก่อสร้าง (Inventory) มูลค่ารวมประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าพร้อมโอนประมาณ 4,500 ล้านบาท จะช่วยสนับสนุนการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องในปี 64

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัวอีก 11 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 45,100 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวสูง 25,000 ล้านบาท และแนวราบ 20,100 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 64 ประมาณ 11,000 ล้านบาท และยอดขายประมาณ 16,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรรายใหม่คือบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โดยมีแผนเปิดตัว 5 โครงการร่วมกันในปี 64 บนทำเลถนนสุขสวัสดิ์ ถนนคูคต ถนนพระราม 9 และถนนเอกมัย-รามอินทรา ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย โดยตั้งเป้าติด 1 ใน 5 หรือ TOP 5 ภายใน 3 ปีข้างหน้า

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews