Phones





SEAFCO หุ้นน้ำดี รอเวลากำไรฟื้นตัวเต็มคาราเบล

2022-11-08 08:02:28 478



SEAFCO หุ้นน้ำดี รอเวลากำไรฟื้นตัวเต็มคาราเบล (สกู๊ปพิเศษ)
เริ่มเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 65 เข้ามาทุกที ช่วงนี้ก็จะเริ่มเห็นบริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศงบไตรมาส 3/65 ออกมาเรื่อยๆ หรือบางบริษัทอาจมองข้ามช็อตไปถึงการประกาศแผนธุรกิจหรือตัวเลขต่างๆในปี 66 กันบ้างแล้ว

รอบนี้เราขอพามาเกาะติดหุ้นน้ำดีอีกหนึ่งตัวของตลาดหุ้นไทยอย่าง บมจ.ซีฟโก้ หรือ ‘SEAFCO’ ซึ่งนำทัพโดย “ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยต้องประคองธุรกิจผ่านมรสุมการระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ฉุดผลประกอบการที่กำลังเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 58-62 โดยเคยทำกำไรได้สูงสุดถึงระดับ 409.51 ล้านบาทในปี 62

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 63 ส่งผลให้กำไรของ SEAFCO ในปีดังกล่าวปรับลดลงมาอยู่ที่เพียง 154.41 ล้านบาท ก่อนที่ผลประกอบการจะเข้าสู่ภาวะขาดทุนในปี 64 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 65 นี้ 

“การระบาดของโควิด-19 ในช่วงแรกๆ ถือว่ารุนแรงกว่าที่เราประเมินไว้มาก เพราะต่อให้ยังรับงานใหม่ๆเข้ามาได้ แต่เราก็ทำงานไม่ได้ เพราะมีมาตรการล็อกดาวน์ และยังมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน แต่ปีนี้ถือว่าสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นมาก ตอนนี้เรามีแรงงานอยู่ราว 400-450 คนถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ผลประกอบการปีนี้คงยังฟื้นตัวกลับมาไม่ทัน เพราะกว่าจะมาเริ่มเข้าพื้นที่ทำงานได้จริงๆ ก็ช่วงกลางไตรมาส 3 แล้ว” ดร.ณรงค์ กล่าว

ดร.ณรงค์ กล่าวต่อว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างสรุปตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3/65 จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 11 พ.ย.65 นี้ ก่อนที่จะแจ้งผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเบื้องต้นยอมรับว่าตัวเลขผลประกอบการจะยังมีการขาดทุนอยู่ เพราะยังรับรู้รายได้เข้ามาไม่มากนัก แต่มั่นใจว่าผลประกอบการไตรมาส 4/65 จะเห็นสัญญาณเทิร์นอะราวด์แน่นอน เพราะจะเริ่มดำเนินงานในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งได้รับงานมาจาก บมจ. ช.การช่าง มูลค่างานราว 800-900 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้บางส่วนเข้ามาในเดือนธ.ค.65

ขณะที่ในปี 66 จะเป็นปีที่ผลประกอบการกลับมามีกำไรได้อีกครั้งอย่างแน่นอน เพราะจะรับรู้รายได้ทั้งหมดจากโครงการรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ดังกล่าว และคาดว่ามีโอกาสได้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งน่าจะเริ่มเปิดประมูลช่วงกลางปี 66 รวมทั้งคาดว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ที่ยังค้างท่ออยู่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของโครงการ Central Embassy ที่ยังล่าช้านั้น บริษัทก็ได้มีการเจรจากับเจ้าของโครงการเพื่อปรับขึ้นราคาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากโครงการเดินหน้าเมื่อไหร่ บริษัทก็พร้อมรับงานทันที    
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยประเมินผลประกอบการไตรมาส 3/65 ของ SEAFCO จะยังมีผลขาดทุนสุทธิ 30 ล้านบาท เนื่องจากความล่าช้าของงานทางยกระดับพระราม 2 – บ้านแพ้ว เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบริเวณใกล้เคียงโครงการ อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 จะขาดทุนน้อยลงเนื่องจากทำงานยกระดับพระราม 2 – บ้านแพ้ว และงาน Tenth Avenue ได้เต็มไตรมาส ก่อนที่ผลประกอบการจะค่อยๆเทิร์นอะราวด์ในไตรมาส 1/66 เป็นต้นไปจากการรับรู้รายได้โครงการรถไฟฟ้าสีม่วงใต้

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 65 ของ SEAFCO ลงเป็นขาดทุนสุทธิ 146 ล้านบาท แต่ยังคงประมาณกำไรปี 66 ไว้ที่ระดับ 173 ล้านบาท เนื่องจากจะได้ทำโครงการรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ และมีโอกาสที่จะเข้าร่วมงานใหญ่อย่างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก รวมถึงโครงการเซ็นทรัล พหลโยธิน 

คงต้องมาติดตามเอาใจช่วยหุ้นน้ำดีอย่าง SEAFCO ว่าผลประกอบการในปี 66 จะกลับมาเป็นกำไรได้อีกครั้งอย่างที่แม่ทัพใหญ่ “ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์” คาดหวังไว้หรือไม่