Phones





SVR เคาะราคาไอพีโอ 2.20 บาท/หุ้น พร้อมเข้าเทรด mai 8 ก.พ.นี้

2023-01-27 14:31:49 727



นิวส์ คอนเน็คท์ - SVR ประกาศเคาะราคา IPO 2.20 บาทต่อหุ้น พร้อมเข้าเทรดตลาด เอ็ม เอ ไอ วันที่ 8 ก.พ. 2566 เตรียมเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 31 ม.ค., 1-2 ก.พ.นี้ มั่นใจเป็นหุ้นอสังหาฯน้องใหม่ ตอบโจทย์นักลงทุนที่สามารถตอกย้ำแนวโน้มภาพการเติบโตผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพุ่งกระฉูดสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจ และพร้อมก้าวสู่การเติบโตก้าวสู่ระดับ High Growth อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีสู่ผู้ถือหุ้น

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม (Joint Lead Underwriter ) พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน), บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Co-Underwriter) ในการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนไม่เกิน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นมูลค่าที่ตราไว้(พาร์) 1.00 บาท โดยเสนอขายที่ระดับราคา 2.20 บาท
 
นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม ( Joint Lead Underwriter )ของ บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น ที่ระดับราคาหุ้นละ 2.20 บาท โดยกำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้น ระหว่างวันที่ 31 มกราคม 2566, วันที่ 1-2 ก.พ.2566 โดยคาดว่าหุ้น SVR จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 หมวดกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ใช้ชื่อย่อ “SVR ”

ทั้งนี้ สำหรับระดับราคา 2.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 13.93เท่า เทียบจากผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ 1 ต.ค. 64 - 30 ก.ย. 65 จากการมีโครงการที่รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกๆปี ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นจึงมองว่าระดับราคาดังกล่าวจึงเป็นราคาที่เหมาะสม

หุ้น SVR เป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่น่าจับตา เนื่องจากศักยภาพความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่สามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถาการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงแนวโน้มการเติบโตผลการดำเนินงานของ SVR ที่มีโอกาสก้าวสู่ระดับ High Growth อย่างต่อเนื่องในอนาคต

ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมถึงจุดเด่นว่า SVR เป็นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตสูง และเป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่น่าจับตา เนื่องจากด้วยพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยมีการปรับเปลี่ยน ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยแนวราบรอบกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยทุก Generation ประกอบกับด้วยวิสัยทัศน์ และ พันธกิจ ของSVR ที่มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างสรรค์นวัตกรรม สินค้าและบริการ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิตที่ลงตัว ทั้งนี้ SVR มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าบริการ และองค์กร ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการใส่ใจความต้องการของลูกค้าในทุกระดับราคา และทุก generation เพื่อสร้างองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกับ ลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น และ พนักงานในองค์กร

 นายอรรถปวิทย์ มโนธรรมรักษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “SVR” เปิดเผยว่า การเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจในการนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จ สำหรับเงินที่SVR ระดมทุนได้ในครั้งนี้ คิดเป็นจำนวน 286 ล้านบาท ของมูลค่าหุ้นที่เสนอขาย โดยบริษัทฯจะนำไปลงทุน เพื่อต่อยอดการพัฒนาโครงการในอนาคตให้ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อขับเคลื่อนทุกโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในขณะนี้สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ ภายใต้การวางยุทธ์ศาสตร์ทางธุรกิจ ให้สอดรับกับแนวคิด “Best Smart Living” 1.) ทำเลที่ตั้งต้องเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ และใกล้รถไฟฟ้า (Smart Location) 2.) การออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่นำเอาความต้องการของผู้อยู่อาศัยมาเป็นที่ตั้ง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้พื้นที่ภายในบ้านได้อย่างคุ้มค่าและลงตัว (Smart Space) 3.) ราคาบ้านที่ลูกบ้านจ่ายไปต้องได้รับความคุ้มค่าอย่างสูงสุด (Smart Value) และ 4.) นวัตกรรมต่าง ๆ (Smart Home) ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ Lifestyle ทุก Generation เพื่อการใช้ชีวิตของลูกบ้านให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากปัจจัยในข้างต้น ทำให้ทุกโครงการของสิวารมณ์ “SVR” สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว ส่งผลให้วันนี้ SVR เป็นบริษัทฯพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่มีอัตราการเติบโตในการก้าวเข้าสู่ระดับ High Growth และพร้อมมุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น