Phones





KBANK หั่นเป้าเศรษฐกิจไทยปี63ติดลบ6%

2020-06-02 17:31:30 340




นิวส์ คอนเน็คท์ – KBANK ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 63 ติดลบ 6% จากเดิมที่คาดติดลบ 5% รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ฉุดตัวเลขการจ้างงานดำดิ่ง ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบางจากจำนวนผู้จิดเชื้อโควิดยังอยู่ในระดับสูง และปัญหาการเมืองสหรัฐฯ


เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แม้จีดีพีไตรมาสแรกของปี 63 จะออกมาดีกว่าที่คาด แต่เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่เหลือของปี คาดว่าจะให้ภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หดตัวลึกขึ้น และจากปัญหาการจ้างงาน ขณะที่เศรษฐกิจต่างประเทศยังน่ากังวล ทั้งในประเด็นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง และประเด็นการเมืองของสหรัฐฯ ทั้งในและระหว่างประเทศ ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพิจารณาปรับลดประมาณการจีดีพีปี 2563 มาที่ -6%


ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,000 ตัวอย่าง สะท้อนให้เห็นถึงการรับรู้จากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต มีการปรับพฤติกรรมในการเก็บออมและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งตอกย้ำถึงการรับรู้ด้านการใช้จ่ายครัวเรือนที่หดตัวลงกว่าที่ประเมินไว้เดิม โดยในส่วนของภาครัฐนั้น ด้วยระดับหนี้สาธารณะระยะสั้นที่ยังไม่น่ากังวล ทำให้พอมีทรัพยากรทางคลังในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือและเยียวยาธุรกิจที่ประสบปัญหาในการฟื้นตัวหลังจากช่วงผ่อนคลายล็อกดาวน์นี้


ด้านนางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจท่องเที่ยว รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ ถือเป็น 3 อุตสาหกรรมสำคัญที่คงต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าอุตสาหกรรมอื่น แต่หากมองจากมิติของการจ้างงาน ธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีแรงงานในห่วงโซ่มากถึง 4 ล้านคน จะเป็นธุรกิจที่ภาครัฐจะพุ่งเป้าหมายการเยียวยาไปที่ธุรกิจและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวเป็นอันดับต้น ๆ โดยต้องยอมรับว่าธุรกิจหลักของไทยอาจใช้เวลามากกว่า 1 ปีในการฟื้นตัวให้กลับสู่ระดับก่อนเกิดเหตุการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่นโยบายการเงินยังคงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญ โดยหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ยังสามารถทำได้ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันมองว่ายังไม่ได้แย่ถึงกับมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบ


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews