นิวส์ คอนเน็คท์ - บริษัท ธนบรรณ จำกัด ผู้นำทางด้านการให้บริการจำนำทะเบียนรถยนต์และจักรยานยนต์ ในเครือบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเกมรุกตลาดสินเชื่อจำนำเล่ม ขยายกลุ่มลูกค้า จัดทำโครงการ “รถแลกเงิน” หวังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงวิกฤตการณ์โควิด เชื่อตลาดยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบัน ขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจ ประชาชนประสบภาวะวิกฤตทางด้านการเงินกันแทบทุกครัวเรือน ยิ่งช่วงที่โรงเรียนใกล้เปิด ผู้ปกครองมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากกว่ายามปกติ ทางบริษัท ธนบรรณ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดทำโครงการ “รถแลกเงิน” ขึ้น เพื่อหวังว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในยามนี้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาให้เดินหน้าต่อไปได้

โดยก่อนหน้า เราได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตลอดช่วงเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีความตั้งใจที่จะผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากยิ่งขึ้น เราหวังว่าทุกโครงการ ทุกมาตรการที่ กรุ๊ปลีส และ ธนบรรณ ออกมาในช่วงนี้และในอนาคต จะมีส่วนช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และลูกค้าของเราให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน

ด้านวิทวัส อรุณะกสิกร ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน - ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ “รถแลกเงิน” เป็นการให้บริการจำนำทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีดอกเบี้ยถูก ได้รับการอนุมัติไว และให้วงเงินสูง โดยกลุ่มเป้าหมายของเรานอกจากจะเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไปแล้ว เรายังมุ่งเน้นไปที่กลุ่มรถพุ่มพวง ซึ่งเป็นรถกระบะที่เปิดท้ายขายของสด ของแห้ง ผัก ผลไม้ พืชผลทางการเกษตร ที่สำคัญเราตั้งใจให้เป็นโครงการที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะนอกจากการให้บริการตามสาขากว่า 30 สาขาทั่วประเทศ และการให้บริการแบบเดลิเวอร์รีแล้ว ในอนาคตอันใกล้เรามีแผนที่จะขยายไปยังช่องทางการตลาดใหม่ เช่น การตั้งจุดให้บริการแบบครบวงจรตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งลูกค้าสามารถที่จะสมัคร ทราบผลการอนุมัติ และรับเงินได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้เงินในยามที่เศรษฐกิจผันผวนเช่นนี้

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews