Phones





รมว.พลังงานเร่งกฟผ.ลงทุนระบบสายส่งยกระดับฮับซื้อขายไฟฟ้า

2020-09-24 17:07:41 306




นิวส์ คอนเน็คท์ - รมว.พลังงานมอบนโยบายกฟผ.เร่งพัฒนาโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้า รุกตลาดเพื่อนบ้าน สร้างเขี้ยวเล็บการแข่งขันของประเทศ ยกระดับการเป็นศูนย์กลางซื้อขายพลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน


เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางมาประชุมมอบนโยบายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานกรรมการ กฟผ. นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. และผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคาร ท.103 กฟผ. สำนักงานกลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี


โดยนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ กฟผ. เร่งศึกษาและพัฒนาโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน และเร่งเจรจาซื้อขายไฟฟ้าให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา เมียนมาร์ และมาเลเซีย เพื่อเดินหน้ารุกตลาดซื้อขายไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน แสวงหาโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงแนะให้พิจารณาลดค่าเสื่อมและอายุโรงไฟฟ้าจาก 25-30 ปี ให้มีระยะเวลาที่สั้นลงเพื่อให้ทันต่อการพัฒนาของเทคโนโลยีที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า พร้อมทั้งให้ กฟผ. ส่งเสริมเทคโนโลยีกระบวนการผลิตไฟฟ้าและการดำเนินการในด้านอื่น ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อนตามความตกลงปารีส (Paris Agreement)


นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับแผนการพัฒนาบุคลากร ควรสนับสนุนคนรุ่นใหม่ในการอบรมทักษะและเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและเฟ้นหาธุรกิจใหม่ ๆ รวมถึงการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความคล่องตัว มีเทคโนโลยีด้านไฟฟ้าที่ทันสมัยน่าสนใจสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้เลยแทนการเริ่มต้นพัฒนาใหม่ เพื่อให้ทันต่อการแข่งขันที่ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว


“กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องรักษาศักยภาพความเข้มแข็ง การพัฒนาบุคลากร และนวัตกรรมต่าง ๆ ให้มีความต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายไฟฟ้าของภูมิภาค” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews