นิวส์ คอนเน็คท์ – SCB วางเป้าหมาย AUM ของกลุ่มลูกค้าเวลธ์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านล้านบาทภายในระยะเวลา 3 ปี พร้อมเพิ่มโซลูชั่นและเครื่องมือทางการเงินเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในการจัดพอร์ตลงทุน

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจ Wealth ทั่วโลกคาดการณ์ว่าในปี 67 มีแนวโน้มเติบโตปีละมากกว่า 7% โดยเฉพาะในจีน และ กลุ่มเอเชียแปซิฟิค ส่วนธุรกิจ Wealth ในประเทศไทย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าทรัพย์สินมีโอกาสเติบโตปีละ 5% โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth Individuals/HNWIs) ขึ้นไป  

ทั้งนี้ ธนาคารมองเห็นโอกาสจากการเติบโตของตลาด และ จากการเป็นสถาบันการเงินอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่มีฐานลูกค้าบุคคลมากกว่า 16 ล้านคน และ มีฐานเงินฝากติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ ทำให้สามารถต่อยอดในการทำธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และสามารถช่วยวางแผนการเงินให้กับลูกค้าได้เต็มรูปแบบและครบวงจร ที่สำคัญธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) นับเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์องค์กรที่สร้างการเติบโตให้กับธนาคารอย่างยั่งยืนทดแทนธุรกิจเดิม  

นอกจากนี้ ธนาคารได้วางเป้าหมายธุรกิจ Wealth ในอีก 3 ปีข้างหน้า ภายใต้แนวคิด “BEAT THE BENCHMARK” ที่มาจากการให้ความสำคัญต่อการได้รับความเชื่อมั่น และ ความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้กับธนาคารจึงได้ทุ่มเทและ เน้นในเรื่องของการดูแลให้คำปรึกษาด้านการบริหารพอร์ตการลงทุนของลูกค้า คัดสรรผลิตภัณฑ์ โซลูชันด้านการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด และ เหนือกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดได้ (Beat the market) เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกด้านการลงทุน ที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดี และ สามารถเพิ่มความมั่งคั่ง  

ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่อยู่ภายใต้การบริหาร (AUM) ของกลุ่มลูกค้ากลุ่ม Wealth ขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านล้านบาท ภายใน 3 ปีนับจากนี้ จากสิ้นปีก่อนธนาคารมี AUM อยู่ที่ 8.5 แสนล้านบาท และสามารถสร้างผลตอบแทนเติบโต 16% โดยธนาคารได้มุ่งเน้นการพัฒนาบริการในการวางแผนต่อยอดความมั่งคั่งส่วนบุคคลให้กับลูกค้า ด้วยทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลระดับมืออาชีพ จัดพอร์ตการลงทุนให้ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที โดยใช้เครื่องมืออันชาญฉลาดที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (data intelligence and optimization tools)

ขณะเดียวกันธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายครบวงจร ทันกับสภาวะตลาด และเศรษฐกิจในรูปแบบของ Open Architecture เพื่อเข้าถึงทุกการลงทุนทั้งใน และ ต่างประเทศในสินทรัพย์หลากหลายประเภทกว่า 10,000 หลักทรัพย์และกองทุน ทั้งในส่วนของ Public assets และ Private assets โดยปัจจุบันธนาคารเชื่อมต่อถึง 19 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในไทย 23 ตลาดหลักๆทั่วโลก รวมไปถึงมี Discretionary Portfolio Management เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า พร้อมกับนำเสนอโซลูชันใหม่ๆที่หลากหลาย เสริมสร้างสภาพคล่อง หรือ สร้างเงินใหม่ให้กับลูกค้า และช่วยในการขยายฐานลูกค้า Wealth ของธนาคารที่มีอยู่ 300,000 ราย

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews