Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
TTB แหกโค้ง กำไร Q1/68 หดตัว 5.2%
MAI
KJL เขย่าตลาดไฟฟ้า! เปิดตัว “Pull Box ชุบกัลวาไนซ์”
IPO
‘BKA’ ฮอต หุ้น IPO 60 ล้านหุ้น ขายเกลี้ยง
บล./บลจ
Webull ส่ง ‘Daily Interest’ รับมือตลาดผันผวน
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
BAY ชี้เงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่า จับตาบอนด์สหรัฐ
การค้า - พาณิชย์
บสย. โชว์ผลงานไตรมาส 1/68 ลุยปลดล็อก SMEs
พลังงาน - อุตสาหกรรม
RT ผนึก กรมโยธาฯ ตรวจสอบอาคารในกรุงเทพฯ
คมนาคม - โลจิสติกส์
WSOL ส่ง SABUY Speed ชิงส่วนแบ่งตลาดขนส่ง 5%
แบงก์ - นอนแบงก์
EXIM BANK ออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการรับมือนโยบายภาษีสหรัฐฯ
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
‘กรุงศรี มอเตอร์ไซค์’ ครองแชมป์สินเชื่อสองล้อ ดันยอดสินเชื่อโต 10%
SMEs - Startup
KBTG ร่วมสนับสนุนโครงการ AHA ของ MIT Media Lab
ประกันภัย - ประกันชีวิต
“เมืองไทยประกันชีวิต” คลอดแคมเปญ “ShieldLife”
รถยนต์
GPI ลุยธุรกิจใหม่จัดอีเวนต์ด้าน Sport สู่กลุ่มเด็ก
ท่องเที่ยว
SCB EIC หวั่น Aftershock สะเทือนท่องเที่ยวไทย
อสังหาริมทรัพย์
SAM ฉลอง 25 ปี คิกออฟมาตรการพิเศษช่วยลูกค้าทุกกลุ่ม
การตลาด
CardX ลุยช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว
CSR
KBTG ร่วมสนับสนุนโครงการ AHA ของ MIT Media Lab
Information
CHO ผู้ถือหุ้นกู้อนุมัติทุกวาระ
Gossip
บ้านปู ชวนร่วมงาน “ดีค้าบ เฟสติวัล”
Entertainment
ไทยประกันชีวิต จัดแคมเปญวิ่ง “PASSION FOR LIFE”
สกุ๊ป พิเศษ
CHAYO ปักธงปี 68 ดันรายได้โต 20%
Z จัดแผนขึ้นแท่นเบอร์ 1 ธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในประเทศไทย
2022-09-19 11:30:28
239
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - "จีเอ็มโอ-แซด คอม" โชว์ศักยภาพผู้นำการให้บริการด้านบัญชีเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในธุรกิจหลักทรัพย์ ยกระดับการเทรดด้วยเทคโนโลยีและองค์ความรู้จากญี่ปุ่น เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน หวังขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 นายเมกุมุ โมโตฮิสะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2565 ยังคงอยู่ในสภาวะผันผวนจากปัจจัยการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นระลอกใหม่ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้ระดับราคาของสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ราคาทองคำ ราคาพลังงานปรับเพิ่มขึ้น เป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่มีระดับสูงขึ้น อีกทั้งรายได้จากการท่องเที่ยวที่ยังต้องใช้ระยะเวลาในการจะกลับมาสู่ภาวะระดับเดียวกันกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น นับเป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ หรือเป็นโอกาสของนักลงทุนหน้าใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะปัจจุบันสามารถเข้าถึงข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร้ขีดจำกัด รวมถึงกระบวนการต่างๆ ที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องออกจากสถานที่พักอาศัย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวส่งเสริมให้ตลาดการลงทุนมีการขยายตัว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ถือเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ในประเทศไทย โดยได้เข้าเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหมายเลข 10 ภายใต้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งให้บริการเฉพาะ 2 ประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ คือ 1) บัญชีเงินฝากล่วงหน้า (Cash Balance Account) และ 2) บัญชีเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Credit Balance Account) โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ในนาม Z เป็นหลัก ด้วยความพร้อมด้านประสบการณ์และการมีแหล่งเงินทุนที่แข็งแกร่ง จากการที่บริษัทฯ มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ GMO Financial Holdings Inc. (“GMOFHD”) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ GMO Internet โดยทั้ง 2 บริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (Tokyo Stock Exchange: TSE) สำหรับ GMOFHD มีการดำเนินธุรกิจในลักษณะ Holding Company โดยเน้นธุรกิจให้บริการทางการเงินได้แก่ การซื้อขายหลักทรัพย์ (Securities Trading) อัตราแลกเปลี่ยนทางการเงิน (Foreign Exchange Trading) และสินทรัพย์ดิจิทัล ครอบคลุมการให้บริการใน 4 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และประเทศไทย ซึ่งจากศักยภาพและความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจของผู้ถือหุ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นแก่ทุกภาคส่วน รวมถึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่บริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
ด้านนายประกฤต ธัญวลัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมมุ่งมั่นให้บริการในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แม้ปัจจุบันจะมีบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จำนวน 38 บริษัท ซึ่งมีการแข่งขันค่อนข้างสูงและใช้กลยุทธ์การแข่งขันด้านอัตราค่าธรรมเนียม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตระหนักดีถึงความเสี่ยงดังกล่าว จึงได้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจให้บริการเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เป็นหลัก ภายใต้แบรนด์ Z.com โดยได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จาก GMOFHD และนำมาประยุกต์และปรับใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทย จนกลายเป็นระบบเทคโนโลยี (Initial Margin Methodology) ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุน โดยบริษัทฯ สามารถคำนวณการปรับเกรดหุ้นเพื่อให้สามารถสะท้อนถึงคุณภาพของหลักทรัพย์ตามสถานการณ์ทุกวันได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และมีจำนวนหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อและ/หรือนำมาวางเป็นหลักประกันได้จำนวนมาก ส่งผลให้ในปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เป็นรายได้หลัก ซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของไทยได้อย่างแน่นอน
“แม้จะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ แต่บริษัทฯ มีความแตกต่างที่ไม่เหมือนธุรกิจหลักทรัพย์อื่นๆ ที่เน้นความสำคัญกับค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้า โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นรายได้จากดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เป็นหลัก ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของเรา เพราะไม่ว่าปริมาณการซื้อขายจะมากหรือน้อย ตลาดหลักทรัพย์หยุดทำการหรือติดวันหยุดยาว ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ เนื่องจากดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์สามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ ได้ทุกวัน” นายประกฤต กล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯ วางเป้าหมายเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในประเทศไทย และขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจหลักทรัพย์ของประเทศไทย โดยใช้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1.) กลยุทธ์ด้านความหลากหลายของหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อและนำมาวางเป็นหลักประกัน มุ่งเน้นธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Credit Balance) เป็นหลัก รวมถึงมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้มาจากประเทศญี่ปุ่น สามารถนำมาประยุกต์และปรับ ใช้กับการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทย 2.) กลยุทธ์ด้านอัตราค่าธรรมเนียม เพื่อดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยการคิดอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Commission Rate) ในอัตราร้อยละ 0.065* ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว เป็นค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในตลาด เนื่องจากบริษัทฯ มุ่งเน้นให้ลูกค้าทำรายการด้วยตนเองผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก ส่งผลให้บริษัทฯ มีต้นทุนต่ำกว่าหากเปรียบเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์อื่น
3.) กลยุทธ์ด้านช่องทางการตลาด เน้นแผนการตลาดผ่านการโฆษณาทางช่องทางออนไลน์ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมการใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังมีแผนการตลาดผ่านทางช่องทางออฟไลน์ด้วย อาทิ การออกบูธ การจัดสัมมนาให้ความรู้ และการโฆษณาผ่านช่องทางหนังสือพิมพ์ เป็นต้น และ 4.) กลยุทธ์ด้านกลุ่มลูกค้า โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ จะเป็นกลุ่มนักลงทุนมีความรู้เกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและความรู้ด้านการลงทุน โดยเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่อยู่ในกลุ่ม Generation X (อายุ 41-55 ปี) ซึ่งมีประสบการณ์ในการลงทุนสูง และในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้วางแผนขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่ม Generation Y (อายุ 25-40 ปี) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็นประจำ และหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนด้วยตนเอง โดยเชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯ มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น และจะกลายเป็นกลุ่มลูกค้าหลักต่อไปในอนาคต
TTB แหกโค้ง กำไร Q1/68 หดตัว 5.2%
CH วางแผนรับมือกำแพงภาษี "ทรัมป์"
BBL กำไรโค้งแรกโตสลุต 20% - SAFE พื้นฐานดี! ต้องมีติดพอร์ต
BBL กำไรโค้งแรกโต 20% รายได้ดอกเบี้ย-ค่าฟีพุ่ง
JMART เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ 5.50% เสริมแกร่งการเงิน
WSOL ยื่นฟ้องลูกหนี้-อดีตผู้บริหาร SABUY กว่า 2,600 ล้านบ.