Phones





ACEย้ำธุรกิจเดินตามแผน แย้มหุ้นร่วงจ่อเก็บเพิ่ม

2020-01-27 14:30:06 1028




นิวส์​ คอนเน็คท์ - ACE เผยหุ้นร่วง​ เหตุนักลงทุนกังวล บิ๊กถือหุ้นถูกโยกภายในสำนักงานตำรวจ ย้ำธุรกิจยังไปได้สวย ลั่นหากราคาหล่นอีก​ มีโอกาสเก็บเข้าพอร์ตเพิ่ม​ พร้อมเดินหน้าตามแผนกำลังผลิตแตะ 1​ พันเมกะวัตต์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 นางจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เปิดเผยว่า จากราคาหุ้นเมื่อวันที่ 24 ม.ค.63 ปิดตลาดที่ราคา 3.20 บาท ปรับตัวลดลง 1.12 บาท หรือ 25.93% มองว่าเกิดจาก นักลงทุนมีความกังวลจากเหตุการณ์กรณีที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกโยกย้ายภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ผู้บริหารรายดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้บริหารและกรรมการบริษัท 


อนึ่ง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.ถูกคำสั่งให้มาปฎิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดย พล.ต.อ.วิระชัย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ ACE โดยถือหุ้นรวม 2.28 พันล้านหุ้น คิดเป็น 22.43% โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าว​ บริษัทขอยืนยันว่า​ ไม่ได้มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด รวมถึงขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาโครงการรวมถึงการขยายกิจการในอนาคต


พร้อมกันนี้​ หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงเกิดราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานของบริษัท ทางกลุ่มครอบครัว "ทรงเมตตา" อาจพิจารณาเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม จากก่อนหน้านี้ที่ นายธีรวุฒิ ทรงเมตตา ผู้ถือหุ้นใหญ่ รายงานการซื้อหุ้น 3 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.04 บาท เป็นเงิน 9.12 ล้านบาท และนายพรเมตต์ ทรงเมตตา ผู้ถือหุ้นใหญ่ รายงานการซื้อหุ้น 40 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.04 บาท เป็นเงิน 121.6 ล้านบาท

ซึ่งเมื่อวันศุกร์ ที่ 24 ม.ค.นั้น ทางบริษัทได้ทำการปิดสมุดเพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด และตรวจสอบว่าผู้ใดขายหุ้นออก หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป


สำหรับทิศทางธุรกิจบริษัทยังคงเป้าหมายกำลังการผลิตรวมแตะ 1,000 เมกะวัตต์ ในปี 2567 แต่หากภาครัฐบาลเร่งรัดการผลักดันโรงไฟฟ้าประเภทต่างๆ ซึ่งได้แก่โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะอีก 400 เมกะวัตต์ คาดว่ามีโอกาสถึงเป้าหมายได้เร็วกว่ากำหนด เบื้องต้น บริษัทคาดชนะประมูล 450-550 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชุมชน 350-400 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะ 100-150 เมกะวัตต์ ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตที่จำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว 212.18 เมกะวัตต์ และกำลังก่อสร้างอีก 210 เมกะวัตต์

จากตามแผนที่คาดว่าจะชนะการประมูลขั้นต้นนั้น จะต้องใช้เงินราว 30,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการทำโปรเจคไฟแนนซ์ รวมถึงออกหุ้นกู้ ซึ่งปัจจุบันมีหนี้สินต่อทุนเพียง 0.5 เท่า และอยู่ระหว่างการทำเครดิตเรทติ้งจาก "ฟิทช์" คาดจะแล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือน นอกจากนี้​ ยังมีเงินไอพีโอเหลืออีกเกือบ 3,000 ล้านบาทที่ยังสามารถใช้ได้ทันที หากมีความจำเป็น


ขณะเดียวเดียวกัน​ อยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุน-ซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานลม-ขยะ-โซลาร์ ในกลุ่มประเทศ CLMV คาดจะได้ข้อสรุปในปีนี้อย่างน้อย 1 ดีล



>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews