นิวส์ คอนเน็คท์ – PTTEP กำไรสุทธิปี 62 เพิ่มขึ้น 40% รับปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อกิจการหนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนปริมาณสำรองปิโตรเลียมต่อการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ปี เล็งจ่ายปันผล 6 บาทต่อหุ้น ปี63 ตั้งเป้าปริมาณการขายเพิ่ม 11%
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการปี 62 บริษัทมีรายได้รวม 6,413 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 198,822 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปี 61 และมีกำไรสุทธิ 1,569 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 48,803 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น40% เทียบกับปี 61 เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการที่บริษัทมีปริมาณการขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนโครงการบงกช การเข้าซื้อกิจการของบริษัท เมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ในประเทศมาเลเซีย และบริษัท พาร์เท็กซ์ โฮลดิ้ง บี.วี. ซึ่งส่งผลให้ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในปี62 เพิ่มขึ้นเป็น 350,651 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 46.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 61 มาอยู่ที่ 47.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ นอกจากนี้ PTTEP ยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในปี 62 รวม 3,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 102,878 ล้านบาท) และมีระดับอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ที่ 71%
ทั้งนี้จากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์การขยายธุรกิจ (Expand) ซึ่งมีทั้งการเข้าซื้อกิจการและการชนะการประมูลทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมายังส่งผลให้ปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้ว (P1) ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 677 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เป็น 1,140 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือเพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับปี 61 ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนปริมาณสำรองปิโตรเลียมต่อการผลิต (R/P ratio) เพิ่มขึ้นจาก 5 ปี เป็น 7.5 ปีอีกด้วย ส่วนในปี 63 PTTEP ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการขายขึ้นอีก 11%
พร้อมกันนี้จากผลประกอบการที่เติบโตนั้น PTTEP ได้อนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผล สำหรับปี 62 ที่ 6 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ PTTEP ได้จ่ายสำหรับงวด 6 เดือนแรกไปแล้วในอัตรา 2.25 บาทต่อหุ้น ส่วนที่เหลืออีก 3.75 บาทต่อหุ้นจะกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 14 ก.พ. 63 และจะจ่ายในวันที่ 10 เม.ย. 63 ภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 63 แล้ว
สำหรับแผนงานในปี 63 PTTEP จะมุ่งดำเนินงานตามแผนการเปลี่ยนผ่านสิทธิการดำเนินงานโครงการใหม่ที่ได้ในปีที่ผ่านมาให้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และโครงการ G2/61 (แหล่งบงกช) ที่กำลังเตรียมแผนงานเพื่อให้ได้ปริมาณการผลิตตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต โดยได้เริ่มวางแผนการเจาะหลุมสำรวจ การสร้างแท่นผลิตและท่อส่งก๊าซธรรมชาติ รวมถึงศึกษาการเตรียมความพร้อมในด้านอื่น ๆ ซึ่งในส่วนของแหล่งเอราวัณนั้น PTTEP ได้ประสานงานกับผู้รับสัมปทานรายเดิมและกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามแผนและผลิตก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ PTTEP จะเร่งกิจกรรมการสำรวจในโครงการที่มีศักยภาพสูงเน้นโครงการในประเทศมาเลเซียและเมียนมา เช่น โครงการเมียนมา เอ็มดี-7 และหลุมสำรวจลัง เลอบาห์-1อาร์ดีอาร์ 2 ในแปลงซาราวัก เอสเค 410บี ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในปีที่ผ่านมา PTTEP ประสบความสำเร็จในการเจาะหลุมสำรวจที่ถือเป็นการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของบริษัท รวมถึง แปลงสำรวจอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกันในประเทศมาเลเซีย เพื่อพิจารณาการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ PTTEP ยังคงมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากโครงการปัจจุบัน และผลักดันการพัฒนาโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ให้สามารถผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว
>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews