Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
CH ครึ่งปีหลังยังดี เดินเกมระมัดระวังในภาวะตลาดโลกผันผวน
MAI
IMH เปิดศูนย์ MRI รพ. IMH สีลม หวังครองแชมป์ย่านสีลม–สาทร
IPO
MASTEC ปิดโรดโชว์ 10 จังหวัด ลุย IPO 79 ล้านหุ้น
บล./บลจ
โกลเบล็ก คัด 5 หุ้นเด่นเด้ง “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC ลุ้นกนง.หั่นดอกเบี้ยสู่ 1.25% หลังศก.ไทยยังเผชิญความเสี่ยง
การค้า - พาณิชย์
คต. จัดคอร์สเสริมความรู้ผู้ส่งออกการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า
พลังงาน - อุตสาหกรรม
GULF เดินหน้าพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3
คมนาคม - โลจิสติกส์
SJWD ชูโซลูชันโลจิสติกส์ รับมือปิดด่านเขมร
แบงก์ - นอนแบงก์
ยูโอบี จับมือ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เสริมแกร่งการลงทุนอาเซียน
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
คาร์ฟอร์แคช ส่งบริการใหม่ “รับเงินไวสุดใน 1 ชั่วโมง”
SMEs - Startup
KBTG เดินหน้าจัดงาน ‘KBTG Techtopia’ ปีที่ 3
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต ส่งมอบโครงการปรับปรุงศูนย์กุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ รพ.จุฬาลงกรณ์ฯ
รถยนต์
นิสสัน ปรับปรุงสายการผลิตในไทย เสริมแกร่งการแข่งขันด้านต้นทุน
ท่องเที่ยว
VRANDA ชี้ท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้นตัว เด้งรับ ‘เที่ยวคนละครึ่ง’
อสังหาริมทรัพย์
ORN ครึ่งปีหลัง 68 โตต่อเนื่อง ลุยเปิด 2 โปรเจ็กต์ใหม่
การตลาด
TCL ยกทัพนวัตกรรมทีวี ‘C Series’ QD Mini LED บุกทั่วไทย
CSR
KBTG เดินหน้าจัดงาน ‘KBTG Techtopia’ ปีที่ 3
Information
ผู้บริหารไทยประกันชีวิต รับโล่เกียรติยศศิษย์เก่าดีเด่น ม.ธรรมศาสตร์
Gossip
MENA หุ้นโลจิสติกส์ ผลงานเจ๋ง!
Entertainment
TCL เปิดแคมเปญ “CALRITY CHALLENGE"
สกุ๊ป พิเศษ
PTG แกร่งทุกมิติ ชู Non-Oil เรือธง
บลจ.อเบอร์ดีน มองหุ้นไทยปีนี้ทะลุ 1,500 จุด
2024-09-10 10:18:14
212
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) มองการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ หนุน GDP โตไม่ต่ำกว่า 2.7% พร้อมด้วยกำไรจากบริษัทจดทะเบียนที่โตต่อเนื่อง และการเข้าลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ เป็นตัวขับเคลื่อนดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสแตะ 1,500 จุดภายในปีนี้ ส่วนหุ้นสหรัฐฯ ยังน่าสนใจ ปัจจัยพื้นฐานและตัวเลขด้านเศรษฐกิจยังดี เชื่อตลาดผันผวนแค่ช่วงเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 นางสาวดรุณรัตน์ ภิยโยดิลกชัย หัวหน้าฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วง 3-6 เดือน น่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,500-1,530 จุด จากเดิมที่ประเมินไว้ช่วงต้นปีที่ 1,360-1,450 จุด โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของเศรษฐกิจ หรือ GDP ที่คาดการณ์จะเติบโตประมาณ 2.7% ในปีนี้ ขณะเดียวกัน คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยปีนี้จะพลิกกลับมาเป็นเติบโต และจะยังคงเติบโตต่อเนื่องในปีหน้า โดยคาดการณ์ EPS หรือกำไรต่อหุ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับประมาณ 90 บาทต่อหุ้น ขณะที่ระดับดัชนีปัจจุบัน สะท้อนถึงอัตราส่วน forward P/E ปีหน้า ที่ระดับต่ำกว่า 15 เท่า
ประกอบกับความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลที่อาจส่งผลบวกต่อการเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และเม็ดเงินจากการเข้าลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ แม้ในช่วงครึ่งปีแรกการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวไปบ้าง จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ล่าช้า ทำให้การลงทุนภาครัฐชะลอออกไป แต่ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ผลักดันให้เศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตตามเป้าหมาย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้แตะที่ระดับประมาณ 23 ล้านคน และช่วงไตรมาสที่ 4 จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น จึงมีโอกาสทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 36-37 ล้านคน
ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะทยอยออกมาภายใต้รัฐบาลนายกแพทองธาร ชินวัตร รวมไปถึงการลงทุนของภาครัฐ และเอกชน ทั้งนี้มองว่ากลุ่มท่องเที่ยว โรงพยาบาล รวมไปถึงกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและ Consumer Finance จะมีโอกาสเติบโตในช่วงที่เหลือของปีนี้
นาย David Hanzl, Head of Wholesale – Asia Pacific จากอเบอร์ดีน กล่าวว่า ยังคงมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเรามองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตชะลอตัว แต่ยังไม่ถึงกับถดถอย ขณะที่อัตราว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงตามลำดับ ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด อาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในอนาคต
ส่วนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบให้ตลาดผันผวนในระยะสั้น แต่ควรมองไปที่ระยะกลางและระยะยาว รวมทั้งโฟกัสกับคุณภาพของบริษัท โดยยังมองเห็นโอกาสการเติบโตที่ดีในกลุ่ม Healthcare กลุ่ม Consumer Staples ส่วนกลุ่ม Technology แม้ราคาขึ้นไปสูงแล้วแต่พื้นฐานก็ยังเติบโตได้ดี ส่วนตลาดเอเชียก็ยังน่าสนใจ แม้ว่าจีนจะเผชิญกับความท้าทาย ทั้งปัจจัยภูมิรัฐศาตร์ และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงชะลอตัว แต่มูลค่าหุ้นจีนยังอยู่ในระดับต่ำมาก อีกทั้งกำไรบริษัทจดทะเบียนในจีนส่วนใหญ่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างอินเดีย ญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศในอาเซียน ยังมีโอกาสเติบโตที่ดี และน่าจะได้อานิสงส์จากกรณีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน สำหรับตราสารหนี้เรามองว่า Frontier Market ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย
ดังนั้น ผู้ลงทุนควรกระจายการลงทุนและการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ไปยังหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ทั้งตราสารหนี้ หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก อีกทั้งครอบคลุมภูมิภาคทั้งตลาดพัฒนาแล้ว และตลาดเกิดใหม่ โดยอาจจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core & Satellite ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนแบบยืดหยุ่นที่ผู้ลงทุนสามารถจัดพอร์ตให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงทุนระยะยาว และแสวงหาโอกาสในการลงทุนระยะสั้น
อเบอร์ดีนแนะนำกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศทั้งกองทุนหุ้นและตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เช่น กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล ไดนามิค ดีวีเด็น (ABGDD - กองทุนมีความเสี่ยงระดับ 6) ที่เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่าทั่วโลกที่มีโอกาสการเติบโตสูง ผ่านกองทุนหลัก abrdn SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund Z Gross MInc USD พร้อมทั้งลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสสร้างผลกำไรจากราคาหุ้น โดยที่ผ่านมากองทุนหลักมีอัตราการจ่ายปันผลอยู่ที่ประมาณ 6% ต่อปี
นอกจากนี้ยังแนะนำกองทุนอเบอร์ดีน โกลบอล เอนแฮนซ์ ฟิกซ์ อินคัม (ABGFIX - กองทุนมีความเสี่ยงระดับ 4) ที่กองทุนหลัก abrdn SICAV I Short Dated Enhanced Income Fund, Class Z Acc USD เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีเรตติ้งที่ดีมีคุณภาพ ความผันผวนต่ำ และมีสภาพคล่องสูง โดยมีการกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ทั่วโลก ครอบคลุมตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรม
ขณะที่กองทุนหุ้นไทยที่แนะนำ ได้แก่ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ (ABSM - กองทุนมีความเสี่ยงระดับ 6) เน้นลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีศักยภาพสูงพร้อมเติบโตเป็นบริษัทใหญ่ในอนาคต ซึ่งได้ประโยชน์จากการเติบโตเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศไทย เช่น กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจสุขภาพ และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเทรนด์ที่บริษัททั่วโลกย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปสู่ประเทศอื่น ๆ รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวน โทร. 02-352-3388 หรืออีเมล client.services.th@abrdn.com ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงการนำเสนอข้อคิดเห็น ซึ่งอาจแตกต่างจากเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจริงได้และไม่ได้เป็นการแนะนำในการจัดพอร์ตการลงทุน น้ำหนักและธีมการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม การลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก กองทุนรวมต่างประเทศมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยปัจจุบันกองทุน ABGFIX ไม่ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
CH ครึ่งปีหลังยังดี เดินเกมระมัดระวังในภาวะตลาดโลกผันผวน
NL สอยงานใหม่เข้าพอร์ต Backlog ทะลุ 2.5 พันล. - PRAPAT ขยายตลาดบังคลาเทศ
NL คว้างานใหม่ 2 โครงการ หนุน Backlog ทะลุ 2.5 พันล.
TEGH ผงาด! ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ปี 2025
BANPU รุกลงทุนแบตเตอรี่ในออสเตรเลีย - DOD เทรนด์รักสุขภาพโตต่อ หนุนรายได้ปีนี้ 800 ล.
BANPU รุกลงทุนโครงการแบตเตอรี่ในออสเตรเลีย 350 เมกะวัตต์