Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
RT โชว์ความสำเร็จเจาะทะลุ 2 อุโมงค์ ลุยส่งมอบงานตามแผน
MAI
IND ย้ำชัด! ถนนทรุดไม่กระทบ อัพรายได้โตเกิน 15%
IPO
IDG เคาะไอพีโอ 3 บาท เปิดจอง 15-17 ต.ค.นี้
บล./บลจ
NestiFly เพิ่มหุ้น mai เป็นหลักประกัน ปรับเกณฑ์ลงทุนยืดหยุ่น
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
ร้านค้า เตรียมพร้อม ลงทะเบียน “คนละครึ่ง พลัส” วันแรก 15 ต.ค.นี้
การค้า - พาณิชย์
บสย. เดินหน้าค้ำประกันกลุ่มลีสซิ่งผ่านมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”
พลังงาน - อุตสาหกรรม
BANPU ผนวก AI กับศักยภาพพนักงาน ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต
คมนาคม - โลจิสติกส์
MPJ เล็งเดินหน้าขยายลานตู้คอนเทนเนอร์
แบงก์ - นอนแบงก์
BBL เปิดหลักสูตร The Big Blue Ocean รุ่น 4
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
TIDLOR เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 3 ปี ที่อัตรา 2.70%
SMEs - Startup
KBTG คว้ารางวัล The Innovators 2025 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ กสิกรไทย มอบเครดิตเงินคืนสุดคุ้ม
รถยนต์
PT Maxnitron Racing Series 2025 จบสนามที่ 3-5
ท่องเที่ยว
พรูเด็นเชียลฯ ร่วมสนับสนุน ซีนิคฮาล์ฟมาราธอนระยอง
อสังหาริมทรัพย์
เปิดตัว “ศุภาลัย วิลล์ เขาน้อย–ราชบุรี” บ้านซีรีส์ใหม่
การตลาด
KOAN เปิดตัว SHOKZ Monobrand Store แห่งแรกในไทย
CSR
KBTG คว้ารางวัล The Innovators 2025 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
Information
CEO กสิกรไทย ได้รับเลือกจาก Fortune เป็นผู้นำหญิงทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย 2 ปีซ้อน
Gossip
STARM เสิร์ฟโปรเด็ดรับฮาโลวีน! ปั๊มยอดสินเชื่อ
Entertainment
BBL จัดพิธีพุทธาภิเษก ‘พระมงคลมิ่งเมือง’ วัตถุมงคลที่ระลึกงานพระกฐินพระราชทาน
สกุ๊ป พิเศษ
ATLAS หุ้นเด่น! LPG นวัตกรรมสุดล้ำ
KBANK อวดกำไรครึ่งปีแรก19,521 ล้านบาท
2021-07-21 16:49:07
343
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – KBANK กำไรครึ่งปีแรกเติบโตแข็งแกร่ง 104.40% อยู่ที่ระดับ 19,521 ล้านบาท หลังมีการตั้งสำรอง ECL ลดลงถึง 39.32%
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/64 ได้รับผลกระทบมากขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สาม ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อทิศทางการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและธุรกิจ และยังทำให้ช่วงเวลาการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวต้องเลื่อนเวลาออกไป ทั้งนี้ แม้มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของภาครัฐและสัญญาณการขยายตัวของภาคส่งออกจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจต่อเนื่องในระยะข้างหน้า แต่แนวโน้มการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน โดยขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนและการควบคุมการระบาดของโควิด-19
โดยผลการดำเนินงวด 6 เดือนแรกของปี 64 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 19,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,971 ล้านบาท หรือ 104.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง 39.32% ซึ่งในครึ่งปีแรกของปีก่อนธนาคารและบริษัทย่อยได้ตั้งสำรองฯ ในระดับที่สูงเป็นจำนวนถึง 32,064 ล้านบาท ภายใต้หลักความระมัดระวัง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นจากมาตรการของทางการที่ให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ต้องติดตามดูแลคุณภาพหนี้อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม แม้ภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 64 จะได้รับผลกระทบมากขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ธนาคารและบริษัทย่อยได้ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวซึ่งคาดว่าการฟื้นตัวจะเลื่อนเวลาออกไป และยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการปล่อยสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ลูกค้า ธนาคารและบริษัทย่อยจึงได้พิจารณาตั้งสำรองฯ ในงวดนี้ทั้งสิ้นจำนวน 19,457 ล้านบาท ซึ่งยังคงเป็นระดับสำรองฯ ภายใต้หลักความระมัดระวัง ทั้งนี้หากเปรียบเทียบไตรมาส 2/64 กับไตรมาสก่อน ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น 24.93%
สำหรับกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 64 มีจำนวน 47,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนจำนวน 1,332 ล้านบาท หรือ 2.90% เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 2,686 ล้านบาท หรือ 4.87% จากการปล่อยเงินให้สินเชื่อแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในงวดนี้อัตราการเติบโตอยู่ที่ 6.17% มาจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่มีศักยภาพ โดยธนาคารได้ติดตามดูแลคุณภาพเงินให้สินเชื่อของลูกหนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้าบางส่วนอยู่ภายใต้มาตรการความช่วยเหลือของธนาคาร ซึ่งรวมถึงมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยทำให้ธนาคารต้องมีการบริหารจัดการดอกเบี้ยค้างรับที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ทั้งลูกค้าและธนาคารสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจปกติได้ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินรับฝากลดลงจากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ลดลง ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.20% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 1,031 ล้านบาท หรือ 4.28% ส่วนใหญ่จากการปรับมูลค่ายุติธรรม (Mark to market) ของสินทรัพย์ทางการเงินซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่ลดลง แม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 1,110 ล้านบาท หรือ 6.57% หลัก ๆ จากค่าธรรมเนียมรับจากการจัดการกองทุน และค่านายหน้ารับจากการซื้อขายหลักทรัพย์ สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจำนวน 323 ล้านบาท หรือ 0.97% จากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 41.54%
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/64 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้จำนวน 23,786 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจำนวน 290 ล้านบาท หรือ 1.23% โดยธนาคารและบริษัทย่อยพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มจำนวน 2,157 ล้านบาท หรือ 24.93% จากไตรมาสก่อน ทำให้กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 8,894 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนจำนวน 1,733 ล้านบาท หรือ 16.31% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 1,584 ล้านบาท หรือ 5.63% ส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.22%
ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 756 ล้านบาท หรือ 6.36% เป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ รวมทั้งการปรับมูลค่ายุติธรรม (Mark to market) ของสินทรัพย์ทางการเงิน ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด ในขณะที่รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 538 ล้านบาท หรือ 3.25% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 41.78%
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิ.ย.64 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,886,863 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 63 จำนวน 228,065 ล้านบาท หรือ 6.23% ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ และการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนสุทธิ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) อยู่ที่ระดับ 3.95% อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) อยู่ที่ระดับ 154.09% อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 18.19% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.86%
RT โชว์ความสำเร็จเจาะทะลุ 2 อุโมงค์ ลุยส่งมอบงานตามแผน
โบรกฯ ส่อง GUNKUL โตแกร่ง เคาะเป้าซื้อ 2.50 บ./หุ้น
SPREME ดัน Backlog แตะ 2.2 พันล. - MMM เดินสายโชว์ศักยภาพธุรกิจ ก่อนย้ายเทรด mai
SPREME สุดปัง! เซ็นสัญญาใหญ่ มูลค่า 833 ลบ.
BBL ปล่อยสินเชื่อ 'SC Asset' ขยายพอร์ตธุรกิจโรงแรม - FPI เสริมแกร่งสู่ยุคดิจิทัล ร่วมโครงการ “JUMP+”
RT คว้างานก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียมูลค่า 820 ลบ.