Phones





SVT วางเป้าปี65รายได้โต25% ลุยเพิ่มตู้-ขยายธุรกิจแฟรนไชส์

2021-11-22 07:00:51 248



นิวส์ คอนเน็คท์ - SVT วางเป้าปี 65 รายได้โต 25% ลุยเพิ่มจำนวนตู้-ขยายธุรกิจแฟรนไชส์ มั่นใจรักษามาร์เก็ตแชร์เบอร์ 1 ได้ตลอดกาล FAย้ำผลงานโตสวยชัวร์

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 นางอาภัสรา ภาณุพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 จะสามารถเติบโตได้ 25% จากปีนี้ที่คาดโต 11% จากปี 63 ที่มีรายได้รวม 1,767 ล้านบาท ตามการขยายเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเพิ่มต่อเนื่อง เบื้องต้นนั้นในปีหน้าทางบริษัทคาดจะมีจำนวนตู้รวมทั้งสิ้น 17,000 เครื่อง เพิ่มขึ้น 2,000 เครื่อง จากปีนี้ และจะประบเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบธรรมดาให้เป็นระบบสมาร์ทเพิ่มเป็น 7,500 เครื่อง ทั้งนี้การขยายเครื่องนั้นจะมุ่งเน้นไปในโซนที่เป็นภาคอุตสาหกรรม และจังหวัดที่มีโรงงานจำนวนมาก เป็นหลัก 

ในส่วนของระบบแฟรนไชส์ คาดเริ่มดำเนินการได้ปลายปีนี้ ซึ่งในปัจจุบันมีการเซ็นสัญญากับผู้ประกอบการที่มีความสนใจแล้วจำนวน 2 ราย โดยทางบริษัทตั้งเป้าจะมีจำนวนแฟรนไชส์ เพิ่มเป็น 40 รายในปี 66 ทั้งนี้ โมเดลดังกล่าวนั้นแบ่งได้เป็น 2 ส่วนได้แก่ รูปแบบที่ 1. ผู้ประกอบการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ มูลค่า 600,000 บาท จะได้รับ จะได้จำนวนตู้ 30 เครื่อง และมีสัญญา 3 ปี และ 2. ผู้ประกอบการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ มูลค่า 1,000,000 บาท จะได้จำนวน 50 ตู้ สัญญา 5 ปี โดยทั้ง 2 รูปแบบ จะมีทีมงานของบริษัทช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดจนช่วยหาทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพให้กับผู้ที่ต้องการเปิดแฟรนไชส์ด้วยเช่นกัน

ด้านนายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการสายงานการผลิต SVT เผยว่า ทางบริษัทมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถรักษาอันดับมาร์เก็ตแชร์ในตลาดตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติได้อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 1 มีสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ในตลาดมากกว่า 40% โดยทางบริษัทพร้อมที่จะพัฒนาเครื่องให้มีความทันสมัยและตอบสนองผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด พร้อมด้วยระบบหลังบ้านที่มีศักยภาพ และการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ที่สามารถส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า SVT สามารถสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานได้ทุกปี โดยในปีนี้มองว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะไม่ต่ำกว่าระดับ 30% และอัตรากำไรสุทธิจะกลับไปสู่ระดับ 7-10% ได้อย่างมีนัยสำคัญ