Phones





PTG ผลงาน Q4/64 ฟื้นตัว

2021-12-13 07:21:33 1718



PTG ผลงาน Q4/64 ฟื้นตัว (สกู๊ปพิเศษ)


แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ในแง่ของผลประกอบการของ "บริษัท พีทีจีเอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG" ถือได้ว่ายังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 64 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 30,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,270 ล้านบาท หรือ 20.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีรายได้จากธุรกิจน้ำมันเพิ่มขึ้น 20.8% จากราคาขายปลีกน้ำมันต่อลิตรที่สูงขึ้นถึง 34.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) เติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,413 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการเติบโตหลักมาจากธุรกิจ LPG และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้ร้านกาแฟพันธุ์ไทย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำไรแม้จะลดลง เนื่องจากบริษัทมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันลดลงอยู่ที่ 1,106 ล้านลิตร ลดลง 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศที่ปรับตัวลดลง 20.1% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงและยาวนานขึ้น ประกอบกับเหตุการณ์อุทกภัยในช่วงปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้กิจกรรมการเดินทางระหว่างจังหวัดฟื้นตัวได้อย่างช้า หลังจากภาครัฐมีการคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด -19 รวมถึงค่าการตลาดที่ปรับตัวลดลง และบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 11.3% ตามจำนวนสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) แก๊ส LPG และสาขาของธุรกิจ Non-Oil ที่เพิ่มขึ้น แม้จะมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนที่เพิ่มขึ้น 4.2% จากปีที่แล้ว จากโครงการ Palm Complex ก็ตาม

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG ระบุว่า "จากสถาการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากบริษัทประเมินว่า เพื่อรองรับการเริ่มเปิดประเทศในช่วงไฮซีซั่น (High season) และโครงการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” ในไตรมาส 4 บริษัทได้เตรียมความพร้อมรองรับการให้บริการ ทั้งในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ Non-Oil รวมถึงการปรับกลยุทธ์การลงทุน ทั้งการให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่าย และปรับงบการลงทุนให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยปรับลดการลงทุนของปี 64 อยู่ที่ 2,000 -2,500 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ 3,000 -3,500 ล้านบาท รวมถึงรักษาเสถียรภาพทางการเงินของบริษัทไว้ให้มีความเหมาะสมเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19” นายพิทักษ์ กล่าว

ในด้านมุมมองของโบรกเกอร์ โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ทางฝ่ายได้ประเมิน PTG พบว่าไตรมาส 4/64 แม้จะมีการควบคุมค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลจากภาครัฐในช่วงเดือน ต.ค. แต่มองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีโอกาสฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจากปริมาณขายน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากไตรมาสก่อน ซึ่งปัจจัยหนุนได้แก่ 1.การคลายมาตรการ Lockdown และการเปิดประเทศ จะส่งผลให้ระดับการเดินทางภายในประเทศและระดับการบริโภคฟื้นตัว และ 2. การเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวของภาคเกษตรกรรม 


ส่วนในมุมของราคาหุ้น PTG มองว่าได้สะท้อนปัจจัยลบจากงบไตรมาส 3/64 และมาตรการจำกัดค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลไปมากแล้ว และหากมองข้ามไปปี 65 PTG จะได้รับประโยชน์จากกิจกรรมการเดินทางที่กลับมาใกล้เคียงสภาวะปกติ โดยราคาปัจจุบันมี Upside Gain 48.6% คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 65 ที่ 22.00 บาทต่อหุ้น แนะนำ “ทยอยสะสม” ขณะที่ด้านภาพการดำเนินงาน ทางฝ่ายได้ประเมิน PTG คาดว่างวดปี 64 จะมีกำไรสุทธิ 1,545 ล้านบาท และรายได้ 123,836 ล้านบาท บน Core P/E ที่ 16 เท่า ส่วนงวดปี 65 คาดมีกำไรสุทธิเป็น 1,847 ล้านบาท และรายได้ 140,800 ล้านบาท บน Core P/E ที่ 13.4 เท่า

นอกจากผลประกอบการจะยังเติบโตต่อเนื่องแล้ว ในด้านคุณภาพการให้บริการ ต้องบอกว่า PTG ไม่เป็นรองใครแน่นอน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ PTG ได้รับรางวัล Outstanding Investor Relations Awards กลุ่มรางวัล Business Excellence สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 10,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 30,000 ล้านบาท และได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ในงาน SET AWARDS 2021 ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร 


“PTG พร้อมมุ่งมั่นในการพัฒนางานด้านกิจกรรมด้านนักลงทุนสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มช่องทางการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์ ได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนและทันต่อเหตุการณ์ เพื่อประโยชน์ต่อการลงทุน” นายพิทักษ์ กล่าว

รวมทั้ง กรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ยังได้มอบรางวัล มาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก หรือ มาตรฐาน Q Mark ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวในประเทศไทยที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อเป็นการรับรองคุณภาพสำหรับรถบรรทุก จากการที่ PTG ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจในเครือ ทั้งร้านสะดวกซื้อ Max Mart ร้านกาแฟพันธ์ไทย ออโต้แบคส์ ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรมาตรฐานจากญี่ปุ่นและจุดบริการพักรถลูกค้า (PT Max Camp) ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยบริการอย่างพร้อมสรรพ เช่น เตียงพักผ่อน ห้องอาบน้ำ เครื่องซักผ้าและอื่นๆ สำหรับประชาชนทั่วไปและกลุ่มผู้ขับรถบรรทุก พร้อมจัดพื้นที่ให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ได้จอดพักพร้อมไฟส่องสว่างในช่วงกลางคืนเพื่อความปลอดภัย นับเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ PT Max Camp จัดเตรียมไว้บริการสำหรับกลุ่มผู้ขับรถบรรทุก เพื่อยกระดับมาตรฐานการขนส่งให้มีความปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกและลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ 


“PTG มุ่งมั่นที่จะสานต่อและพัฒนายกระดับมาตรฐานการบริการการที่มีคุณภาพในทุกมิติ ความทุ่มเทนั้นสะท้อนได้จากการได้รับการรับรองมาตรฐาน Q Mark โดยบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนโครงการดังกล่าวต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือในการให้บริการขององค์กร แต่ยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกของประเทศไทยให้มีศักยภาพ สามารถแข่งขันกับคู่แข่งจากต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนเกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน” นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG กล่าว