Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
MOSHI มั่นใจรายได้ตามเป้า กางแผนปี 69 เปิดเพิ่ม 35 สาขา
MAI
STX กางแผนธุรกิจปี 69 ส่ง ‘โดโลไมต์’ ขยายฐานลูกค้าใหม่
IPO
TEBP พร้อมระดมทุนเข้า mai ขาย IPO 90 ล้านหุ้น
บล./บลจ
SCB WEALTH ชู ‘AI Infrastructure’ คลื่นลงทุนยักษ์แห่งอนาคต
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ส่องศก.ไทยปี 69โตชะลอตัว
การค้า - พาณิชย์
บสย. เตรียมวงเงิน 50,000 ล. เสริมสภาพคล่อง SME
พลังงาน - อุตสาหกรรม
ปตท. ไตรมาส3/68 กำไรสุทธิ 19,784 ล้านบ. เพิ่มขึ้น 21.2%
คมนาคม - โลจิสติกส์
WICE คว้า ISO 14064-1:2018 มุ่งสู่ Net Zero พร้อมรับกฎหมายสภาพภูมิอากาศ
แบงก์ - นอนแบงก์
ไทยพาณิชย์ คว้ารางวัล “HR Leader for Social Impact Award”
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
SAWAD ส่งมาตรการ “พักชำระเงินต้น” ช่วยลูกค้าประสบอุทกภัยภาคใต้
SMEs - Startup
SCBX แนะช่องทางรับมือภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม
ประกันภัย - ประกันชีวิต
คปภ.ถอนใบอนุญาตตัวแทนโกง - ไทยประกันชีวิตลงดาบซ้ำ
รถยนต์
AJA จับมือพันธมิตรจีน ขับเคลื่อนอุตฯ พลังงานสะอาด
ท่องเที่ยว
TAGTHAi คว้ารางวัล Best in AI-Ready Platform
อสังหาริมทรัพย์
BAM “ยกหนี้” ให้วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต จากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
การตลาด
“คิง เพาเวอร์” ขับเคลื่อน Craft ไทยสู่ความยั่งยืน
CSR
SCBX แนะช่องทางรับมือภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม
Information
EXIM BANK พบปะ NEXI ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย-ญี่ปุ่นสู่ตลาดโลก
Gossip
COCOCO ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจแข็งแกร่ง
Entertainment
กอช. ผนึก 17 พันธมิตร ลงนาม MOU เดินหน้า “สลาก กอช.”
สกุ๊ป พิเศษ
อุทกภัยหาดใหญ่ : ตอกย้ำบทบาท คปภ. และความแข็งแกร่งระบบประกันภัยไทย
อุทกภัยหาดใหญ่ : ตอกย้ำบทบาท คปภ. และความแข็งแกร่งระบบประกันภัยไทย
2025-12-11 16:47:31
40
sharer
อุทกภัยหาดใหญ่ : ตอกย้ำบทบาท คปภ. และความแข็งแกร่งระบบประกันภัยไทย
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมีความถี่และความรุนแรงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอุทกภัย ซึ่งกำลังกลายเป็น “ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง” (Structural Risk) ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม เหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างแก่หลายจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย โดยมีอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางของผลกระทบ ทำให้บ้านเรือน ร้านค้า รถยนต์ และธุรกิจ SME ต้องหยุดชะงักลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่สำคัญพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาค
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้ประเมินว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะสร้างความเสียหายต่อรายได้ของประเทศในช่วงเดือนธันวาคม 2568 ราว 2-3 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.1 - 0.2% ของ GDP ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยทั้งปีขยายตัวได้เพียง 2% ขณะที่ในปี 2569 ประเมินผลกระทบอาจสูญเสียรายได้สูงถึง 9 หมื่นล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ภัยพิบัติไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเฉพาะพื้นที่ แต่เป็นความเสี่ยงเชิงมหภาค (Macroeconomic Risk) ที่กระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยตรง
ในมิติของระบบประกันภัย ความเสียหายจากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน พบว่าขณะนี้มีการติดต่อยื่นเคลมประกันภัยแล้วมากกว่า 44,000 กรมธรรม์ มูลค่ารวมกว่า 10,840 ล้านบาท แยกเป็น ความเสียหายด้านรถยนต์จำนวน 17,000 คัน วงเงินประมาณ 4,400 ล้านบาท และความเสียหายต่อทรัพย์สินจำนวน 26,000 ราย วงเงินประมาณ 6,400 ล้านบาท (ข้อมูลยังไม่เป็นทางการ ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2568)
ถือเป็นอีกบททดสอบความสามารถในการรองรับความเสี่ยงของธุรกิจประกันภัยไทย อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ซึ่งมีค่าสินไหมทดแทนสูงกว่า 4 แสนล้านบาท ความเสียหายในครั้งนี้ยังอยู่ในระดับที่ระบบประกันภัยสามารถบริหารจัดการได้ สะท้อนพัฒนาการด้านการบริหารความเสี่ยงของภาคธุรกิจประกันภัยไทย โดยเฉพาะการใช้กลไกประกันภัยต่อ (Reinsurance) ในการกระจายความเสี่ยงสู่ระบบการเงินระหว่างประเทศ
ในเชิงนโยบาย เหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ยังตอกย้ำความแตกต่างระหว่าง “ความเสี่ยงที่สามารถคาดการณ์ได้” (Predictable Risk) กับ “ความเสี่ยงรูปแบบใหม่” (Emerging Risk) โดยภัยน้ำท่วมสามารถอาศัยข้อมูลสถิติและแบบจำลองพยากรณ์มาบริหารจัดการได้ ต่างจากกรณีโควิด-19 ที่ไม่มีฐานข้อมูลรองรับในเชิงคาดการณ์ ส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยเผชิญผลกระทบรุนแรงในวงกว้างภายในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น เหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้จึงไม่กระทบต่อความมั่นคงของธุรกิจประกันภัยในภาพรวมของประเทศอย่างแน่นอน แต่กลับสะท้อนถึงความพร้อมของภาคธุรกิจประกันภัยไทย
บทบาทของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ภายใต้การนำของเลขาธิการ คปภ. “ชูฉัตร ประมูลผล” จึงมีความเด่นชัดในฐานะ “Regulatory Stabilizer” ที่ทำหน้าที่รักษาสมดุลระหว่างเสถียรภาพของระบบประกันภัยและการคุ้มครองสิทธิผู้เอาประกันภัย ตั้งแต่การเรียกประชุมภาคธุรกิจประกันภัยทันทีหลังเกิดเหตุ การกำหนดมาตรฐานกลางการประเมินความเสียหายรถยนต์ การลงพื้นติดตามเหตุการณ์ และเร่งกระบวนการจ่ายสินไหมทดแทน ไปจนถึงการออกคำสั่งนายทะเบียนเพื่อผ่อนคลายภาระทางการเงินแก่ประชาชน ล้วนสะท้อนการใช้นโยบายที่รวดเร็ว ตรงจุด และเหมาะสมกับสถานการณ์วิกฤต
อีกทั้งมาตรการซ่อมรถยนต์ที่กำหนดระดับความเสียหาย 5 ระดับ รวมถึงแนวปฏิบัติสำหรับรถไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า ยังช่วยปรับนโยบายให้สอดรับกับโครงสร้างยานยนต์สมัยใหม่ ลดข้อพิพาท และเพิ่มความชัดเจนในการพิจารณาสินไหม ส่วนมาตรการด้านประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ยังสะท้อนแนวคิดการคุ้มครองเชิงสังคมผ่านระบบประกันภัยอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบทุกคนได้รับการช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม
ในกรณีผู้เสียชีวิต คปภ. มีการดำเนินการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อรวบรวมรายชื่อและเลขบัตรประชาชนเพื่อนำมาตรวจสอบผ่านระบบฐานข้อมูลกลางด้านประกันภัย (Insurance Bureau System) ซึ่งถือเป็นพัฒนาการสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้าน Digital Insurance Infrastructure ซึ่งช่วยลดความล่าช้า เพิ่มความแม่นยำ และลดภาระของญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรัฐสวัสดิการในสถานการณ์วิกฤต
ภาพรวมเหตุการณ์อุทกภัยหาดใหญ่ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงวิกฤตด้านภัยพิบัติ หากแต่เป็น “บททดสอบเชิงนโยบาย” ที่สะท้อนประสิทธิภาพของระบบประกันภัยไทยอย่างแท้จริง ผลลัพธ์ที่ปรากฏชี้ให้เห็นว่า ระบบประกันภัยยังคงทำหน้าที่เป็นกลไกบริหารความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกันยังตอกย้ำบทบาทของ คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลที่ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเชิงกฎระเบียบ แต่ทำหน้าที่เป็น “กลไกเชิงรุกของรัฐ” ในการคุ้มครองประชาชนและรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินด้านการประกันภัยของประเทศ
โดยล่าสุด เลขาธิการ คปภ. “ชูฉัตร ประมูลผล” ได้มอบหมายให้ “อดิศร พิพัฒน์วรพงศ์” รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงาน คปภ. แถลงข่าวร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการตลาดทุนและธุรกิจประกันภัย วุฒิสภา สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย โดย คปภ. ยืนยันว่าธุรกิจประกันภัยไทยมีความมั่นคง มีสภาพคล่องเพียงพอ พร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และจะติดตามเสถียรภาพของธุรกิจประกันภัยทั้งด้านความมั่นคงและสภาพคล่องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าระบบประกันภัยพร้อมดูแลประชาชนผู้เอาประกันภัยอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
MOSHI มั่นใจรายได้ตามเป้า กางแผนปี 69 เปิดเพิ่ม 35 สาขา
"สารัชถ์ รัตนาวะดี" แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 68 รวย 1.89 แสนล.
MASTER ลุยขยายฐานลูกค้าต่างชาติ - EKH กำไรเด่น โบรกฯ แนะ 'ซื้อ' เป้า 6.90 บ. - ยิลด์ 5%
MASTER ปรับทัพผู้บริหาร หนุนผลงานกลับมาแกร่ง
TSE เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ย 5.20-5.30% ต่อปี
EKH อัพไซด์เด่น! กำไรแรง โบรกฯ เคาะเป้า 6.90 บ./หุ้น