Phones





WFX เทรดSETวันที่้23ธ.ค.นี้ เปิดกำไรงวด9เดือนโตแรง218%

2021-12-22 09:48:35 797



นิวส์ คอนเน็คท์ - WFX ลงสนามเทรด SET วันที่ 23 ธ.ค.นี้ เปิดกำไรงวด 9 เดือน โตกว่า 218% ตอกย้ำธุรกิจแข็งแกร่ง ภายหลังระดมทุนนำเงินซื้อเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อขยายกำลังการผลิต 
 
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 นายชวลิต ติยาเดชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้งและเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบซิลิโคน โดยจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 23 ธ.ค. 64 ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค หมวดธุรกิจแฟชั่น โดยบริษัทมีหุ้นจดทะเบียนและชำระแล้ว 464.20 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท มีจำนวนหุ้นไอพีโอ 142 ล้านหุ้น จัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไป 121,310,051 หุ้น ผู้ถือหุ้นเดิมของ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-Emptive right) จำนวน 8,789,949 หุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวน 11,900,000 หุ้น กำหนดราคา IPO ที่ 7.20 บาทต่อหุ้น

ล่าสุด บริษัทได้แจ้งผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 64 มีกำไรสุทธิ 188.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218.04% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.18 ล้านบาท ขณะที่งวดเฉพาะไตรมาส 3/64 มีกำไรสุทธิ 92.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 639% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12.56 ล้านบาท ผลจากการขยายความสามารถในการผลิต จึงทำให้บริษัทสามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายชนิดมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้านรายได้งวด 9 เดือนทำได้ 2,583.52ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ การเข้าจดทะเบียนใน SET จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตให้กับบริษัทจากการขยายตลาดใหม่ ภายใต้จุดแข็งที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ไม่ว่าจะเป็นความได้เปรียบของโปรดักส์ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกขนาด ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดนอกจากนี้ WFX ยังมีความได้เปรียบด้านการเข้าถึงวัตถุดิบ เพราะโรงงานผลิตของบริษัทอยู่ในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ผลิตน้ำยางข้นอันดับ 1 ของโลก ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเส้นด้ายยางยืด รวมทั้งการที่มี TRUBB ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำยางข้นในไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ช่วยให้บริษัทเข้าถึงวัตถุดิบที่มีคุณภาพในปริมาณที่ต้องการ

อนึ่ง การเข้าระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้ในการซื้อเครื่องจักรใหม่ โดยบริษัทมีแผนเพิ่มกับลังการผลิตอีก 12,400 ตันต่อปี จากปัจจุบับมีกำลังผลิตที่ 35,000 ตันต่อปี ขณะเดียวกันบริษัทจะใช้ในการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นกับสถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินหมุนเวียนในบริษัท