นิวส์ คอนเน็คท์ – BBIK โชว์ผลงานเด่น ทำนิวไฮทั้งรายได้และกำไรปี 64 โตทะลุ 50% เผยทุ่มงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เสริมแกร่งบริการ มั่นใจดันเป้ารายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 50% เชื่อดีมานด์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันโตแรงต่อเนื่อง พร้อมจ่ายปันผลหุ้นละ 0.375 บาท

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 64 บริษัทสามารถทำรายได้และกำไรเติบโตมากกว่า 50% โดยมีรายได้รวม 303.69 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 66.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 200.53 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 44.29 ล้านบาท พร้อมอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.375 บาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินธุรกิจของบลูบิคแสดงให้เห็นว่า ปี 64 เป็นปีแห่งการเติบโตและประสบความสำเร็จทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าและมีการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบลูบิคจึงเตรียมเดินหน้าลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้าง Upside ให้รายได้ระยะยาว รวมถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ

โดยในปี 64 บริการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Digital Excellence and Delivery) เป็นบริการที่มีสัดส่วนหลักในการดันรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 102% คิดเป็น 201 ล้านบาท และกำไรเพิ่มขึ้นถึง 158% คิดเป็น 49 ล้านบาท ขณะเดียวกันการเติบโตเชิงรายได้ของบริการหลักอื่นๆยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ รวมทั้งบริษัทยังมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ OR โดยในปี 64 ORBIT Digital ทำรายได้ราว 25.3 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 9.3 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งกำไรของบลูบิคที่ 5.6 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมแบ็กล็อกจาก ORBIT อีกไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2564 จะชะลอตัว แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ กลับมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ดังนั้นในปี 65 จึงเชื่อมั่นว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับปีก่อน คือ ไม่ต่ำกว่า 50% โดยขณะนี้บริษัทมีงานในมือ(Backlog) มากกว่า 385 ล้านบาทแล้ว และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 65 มากกว่า 245 ล้านบาท

สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทยังมองเห็นศักยภาพการเติบโตในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม จึงจัดตั้งบริษัท บลูบิค โกลบอล จำกัด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 15-20% ในปีนี้ อีกทั้งยังดำเนินการจัดตั้ง Bluebik Technology Center ในประเทศอินเดีย เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและความรู้ทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอดจนเป็นศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้าน IT โดยเฉพาะ มาช่วยเสริมทัพในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าการยื่นขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI จะได้รับการอนุมัติและเริ่มใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ในครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยบริษัทจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนในนวัตกรรมใหม่ ๆ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่สามารถเสริมศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ อย่างยั่งยืน และสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้บริษัทฯ โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าซื้อบริษัท จีเอ็มวีพาย จำกัด (GMVPI) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านระบบ SAP แบบครบวงจร ในสัดส่วน 80% เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้าที่ใช้ระบบ SAP ในการบริหารจัดการองค์กรโดยวางเป้าหมายรายได้จากการควบรวมกิจการครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาทในปีนี้ และยังเดินหน้าขยายการลงทุนในแผนการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในไตรมาส 1-2/65 เพื่อเข้ามาเสริมแกร่งด้านบริการ และเป็นช่องทางในการขยายฐานลูกค้าในอนาคตอีกด้วย