นิวส์ คอนเน็คท์ - คปภ.ลงพื้นที่ อ.หัวไทร นครศรีธรรมราช ชักชวนเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปี ลดเสี่ยงพืชผลเสียหายจากภัยพิบัติ หลังพบมีการตื่นตัว ทำประกันสูง 96%

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) พร้อมด้วยผู้แทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ลงพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เพื่อประชุมรับฟังความคิดเห็นเกษตรกรในโครงการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประจำปี 2562
ดร.สุทธิพล เปิดเผยว่า ในปี 61 อ.หัวไทร ปลูกข้าวมากอันดับ 1 ของ จ.นครศรีธรรมราช และมีการทำประกันภัยข้าวนาปี 96.4% ถือว่าเกษตรกรมีความตื่นตัวมาก และในปีนี้ทางสำนักงาน คปภ.คาดหวังว่าจะมีการทำประกันภัยข้าวนาปีถึง 100%

"โครงการประกันภัยข้าวนาปี เริ่มมาตั้งแต่ปี 54 และจนถึงปีนี้ก็ดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เบี้ยประกันถูกลง แต่ให้ความคุ้มครองสูงขึ้น เช่น ปี 61 เบี้ย 90 บาทต่อไร่ คุ้มครอง 1,200 บาท ต่อมาเบี้ยลดเหลือ 85 บาทต่อไร่ และถึงตอนนี้ เบี้ย 85 บาทต่อไร่ แต่ความคุ้มครองเพิ่มเป็น 1,260 บาทต่อไร่ โดยที่เกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ไม่ต้องจ่ายเงินเลย" ดร.สุทธิพลกล่าว

ทั้งนี้ ประกันภัยข้าวนาปี ปี 62 รัฐบาลตั้งเป้า 30 ล้านไร่ โดยมีการคุ้มครอง 8 ภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ฝนแล้ง พายุ ลูกเห็บ ไต้ฝุ่น เป็นต้น รัฐบาลให้ความคุ้มครองไร่ละ 1,260 บาท เบี้ยประกันไร่ละ 85 บาท โดยรัฐบาลอุดหนุนให้ไร่ละ 51 บาท หากเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ทางธนาคารจะจ่ายแทนเกษตรกรไร่ละ 34 บาทเอง แต่หากไม่ได้เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ทางเกษตรกรต้องจ่ายเอง แค่เพียง 34 บาทต่อไร่ แต่ได้ความคุ้มครองไร่ละ 1,260 บาทเช่นกัน

สาเหตุที่ คปภ.ลงพื้นที่ อ.หัวไทร เป็นการมาให้คำแนะนำ และรับฟังข้อมูลจากเกษตรกร เพื่อนำไปปรับปรุงในจุดที่เกษตรกรเสนอแนะ และพื้นที่ภาคใต้ ข้าวนาปีจะมาช้ากว่าภาคอื่น คือช่วงเดือน ต.ค. ขณะที่ภัยพิบัติช่วงที่ผ่านมา มักจะเกิดช่วงปลายๆ ต.ค. จึงอยากให้เกษตรกรได้ให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยก่อนจะมีภัยพิบัติ เพื่อลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่จะเกิดขึ้น