Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
PTG สุดปลื้ม! คว้า CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ”
MAI
88TH ชี้ Q4 เข้า High Season ย้ำ! พื้นฐานแกร่ง
IPO
MMM ฮอต! เปิดจองวันแรก นลท. แห่จอง PO เพียบ
บล./บลจ
“โกลเบล็ก” ระบุราคาทองคำยังน่าจับตา!
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
วิจัยกรุงศรี จับสัญญาณกนง.หั่นดอกเบี้ย หนุนศก.ฟื้น
การค้า - พาณิชย์
พาณิชย์ดันข้าวไทยในงาน Anuga 2025 พร้อมลุยตลาดยุโรป
พลังงาน - อุตสาหกรรม
ฟร้อนท์ไลน์ฯ เดินหน้าสู่ผู้นำการจัดการน้ำครบวงจร
คมนาคม - โลจิสติกส์
TRUE คลอดหุ้นกู้ 4 ชุดใหม่ รองรับแผนลงทุนในอนาคต
แบงก์ - นอนแบงก์
CREDIT คว้า CGR ระดับ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
กรุงศรี ออโต้ หนุนสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า ส่งข้อเสนอพิเศษส่งท้ายปี
SMEs - Startup
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
ประกันภัย - ประกันชีวิต
อลิอันซ์ อยุธยา ลั่นกลองรบตลาดยูนิตลิงค์ เปิดตัว 5 กองทุนใหม่
รถยนต์
MGC-ASIA รับข่าวดี “XPENG X9” ผู้นำยานยนต์ไฟฟ้า MPV
ท่องเที่ยว
GCAP เปิดตัวโดรนโดยสารไร้คนขับครั้งแรกในไทย เจาะตลาดการท่องเที่ยว
อสังหาริมทรัพย์
ORN คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 5 ดาว มุ่งเติบโตยั่งยืน
การตลาด
TCL ฉลอง 21 ปี เปิดแคมเปญ Super Birthday | Better Future, Be Together
CSR
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
Information
“SMO” โรดโชว์ห้องค้า “บล. กรุงศรี”
Gossip
SA ลุ้นรับอานิสงส์ดอกเบี้ยต่ำ
Entertainment
ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดเยาวชนต่อยอดบอลที่สหรัฐฯ
สกุ๊ป พิเศษ
ATLAS หุ้นเด่น! LPG นวัตกรรมสุดล้ำ
ttb analytics ประเมินเศรษฐกิจไทยเติบโต 3.0%
2022-03-31 20:48:55
1501
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - ttb analytics ประเมินเศรษฐกิจไทยเติบโต 3.0% จากปัจจัยการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ยังมีอยู่ และแรงกดดันเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงหลังเกิดความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน พร้อมยังมีความเสี่ยงที่จะขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ หากสถานการณ์ยืดเยื้อ
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ระบุว่า จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ทำให้ประชาชนยังต้องระมัดระวังการใช้ชีวิตและการใช้จ่าย ผนวกกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังถูกแรงกดดันเพิ่มเติมจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยหลังปฏิบัติการพิเศษทางทหารฯ มีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบเร่งตัวสูงขึ้นมาก โดย ttb analytics คาดว่า ราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และในกรณีที่สถานการณ์ยืดเยื้อบานปลาย ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับราคาขึ้นถึง 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยมีโอกาสอยู่ในระดับสูงตลอดปี 65
ด้วยสถานการณ์การบริโภคภาคเอกชนที่ได้แผ่วลงจากการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน นับตั้งแต่ม.ค.65 รวมกับราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น ได้ส่งผ่านผลกระทบเพิ่มไปยังผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบทันทีและรุนแรงมากที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงในบ้านและการเดินทางถึง 25% ของค่าใช้จ่ายครัวเรือนทั้งหมด ซึ่งมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นราว 15% จากปี 64 ขณะเดียวกันยังมีสัดส่วนการบริโภคในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีสัดส่วนสูงถึง 20% ซึ่งปรับเพิ่มราคาขึ้นราว 8%
ขณะที่ยอดขายสินค้าหมวดคงทน โดยเฉพาะรถยนต์จะยังขยายตัวได้จากมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ แม้ผู้ซื้อบางส่วนอาจชะลอการซื้อออกไปสาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ดังนั้น ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจช่วงระยะเวลาต่อจากนี้ไปลดลง ประกอบกับรายได้และการจ้างงานทั่วไปที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ในขณะที่ภาระหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง จึงมองว่าการบริโภคภาคเอกชนของไทยโดยรวมจะฟื้นตัวล่าช้าที่ 2.7% แม้จะได้รับแรงพยุงบางส่วนจากมาตรการกระตุ้นฯ ของภาครัฐ
ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่แพงขึ้นจะส่งผลให้การท่องเที่ยวภายในประเทศลดลง โดยกระทบต่อกิจกรรมและการเดินทางในช่วงสงกรานต์ อีกทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยเดินทางเข้าไทยหลังเปิดประเทศส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปมากถึง 45% และชาวรัสเซีย 7% ซึ่งความไม่มั่นคงในภูมิภาคยุโรปจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยลดลง และคาดว่าในปี 65 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเพียง 4.5 ล้านคน
ด้านการส่งออกและนำเข้าสินค้าของไทย จะได้รับผลกระทบทางตรงจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างจำกัด เนื่องจากมูลค่าการส่งออกโดยตรงของไทยไปรัสเซียและยูเครนมีสัดส่วน 0.45% จากมูลค่าการส่งออกทั้งหมด โดยสินค้าส่งออกจากไทยไปยังรัสเซียที่จะได้รับผลกระทบสูงสุด คือ หมวดยานยนต์และชิ้นส่วน จากปัญหาห่วงโซ่การผลิตที่รุนแรงขึ้นและการขนส่งสินค้าที่อาจสะดุดตัวชั่วคราว ขณะที่การนำเข้าโดยตรงจากรัสเซียจะได้รับผลกระทบผ่านราคานำเข้าที่พุ่งสูงขึ้นและการขาดแคลนสินค้าในกลุ่มปุ๋ยเคมี, น้ำมันดิบ และเหล็ก รวมไปถึงการนำเข้าธัญพืชจากยูเครนด้วย เช่น ข้าวสาลี
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางอ้อมต่อไทยจะมีมากกว่า โดยการส่งออกจะได้รับผลผ่านเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และการนำเข้าจะถูกกระทบจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในห่วงโซ่อุปทานการผลิตของคู่ค้าสำคัญของไทย คือ สหภาพยุโรป-27 และสหรัฐฯ ซึ่งประเทศเหล่านี้พึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบโดยเฉพาะเหล็ก เคมีภัณฑ์ และพลังงานจากรัสเซียและยูเครนมาก ดังนั้น ในระยะถัดไปนอกจากจะเห็นการชะลอตัวในปริมาณการนำเข้าของไทยโดยเฉพาะหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์จากสหรัฐฯ และยุโรปแล้ว ปริมาณการส่งออกสินค้าของไทยก็จะชะลอตัวลงเช่นกัน แต่เนื่องจากราคาส่งออกจะปรับสูงขึ้นมากตามต้นทุนที่เร่งตัว จึงประเมินว่ามูลค่าการส่งออกของไทยปี 65 จะอยู่ที่ราว 287 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 5.8%
ดังนั้น ภาระต้นทุนในประเทศที่สูงขึ้น พร้อมกับความต้องการภายในประเทศและเศรษฐกิจภาคต่างประเทศที่ชะลอตัวลง จะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและกิจกรรมการลงทุนภาคเอกชนมีทิศทางลดลงเช่นกัน อีกทั้งการระมัดระวังในการจ้างงานใหม่เพื่อควบคุมต้นทุน ttb analytics จึงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 65 จะขยายตัวที่ 3.0% ซึ่งเป็นทิศทางฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ช้าลงกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงจะขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ หากสถานการณ์ความขัดแย้งในยุโรปยืดเยื้อบานปลายและเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่รุนแรง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานในตลาดโลกและตลาดในประเทศทรงตัวระดับสูงนานกว่าที่ประเมินไว้ กิจกรรมภาคธุรกิจไทยก็อาจลดลงมากกว่าที่คาดจากสาเหตุการปรับต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระดับการจ้างงานในอนาคต
โดยราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศในช่วงนี้ ส่งผลให้ภาคธุรกิจไทยที่ใช้พลังงานหรือวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ข้าวโพด ถั่วเหลือง และโลหะต่าง ๆ จำเป็นต้องเผชิญกับภาวะต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและผันผวนมากขึ้น ขณะที่การปรับราคาสินค้าขึ้นยังทำได้น้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุนตามการบริโภค ที่มีแนวโน้มชะลอตัวและการท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวช้าออกไป ความเสี่ยงด้านต้นทุนและด้านการตลาดของภาคธุรกิจจึงเพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้ภาคธุรกิจจำต้องมีความระมัดระวังในการตัดสินใจขยายการลงทุน โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และภาคก่อสร้าง
ดังนั้น ภาคธุรกิจต้องเร่งปรับตัวโดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการขนส่ง การทำตลาดออนไลน์เพื่อเจาะตลาดใหม่ ๆ และบริหารสต๊อกสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยรักษาการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจเอาไว้ได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
PTG สุดปลื้ม! คว้า CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ”
10 เรื่องน่ารู้ “ATLAS” หุ้นดีที่ต้องมีติดพอร์ต
WICE คว้าคะแนน CGR ระดับ “ดีเลิศ” 7 ปีซ้อน
COM7 โบรกฯ แนะ 'ซื้อ' เป้า 31.50 บ. - MC ปันผลงวดปี 68 หุ้นละ 0.96 บ.
BAM เดินหน้ากลยุทธ์ 3P ก้าวสู่ฮับธุรกิจ AMC - MGC-ASIA ปลื้ม! 'XPENG X9' ทะลุเป้า
JMART ไม่เบี้ยวหนี้ ชำระคืนหุ้นกู้ครบ 2.3 พันลบ.