Phones





FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่น 3 เดือนหน้าโต 4.3%

2022-04-04 12:14:07 254




นิวส์ คอนเน็คท์ - FETCO ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนหน้า เพิ่มขึ้น 4.3% ลุ้นผลงานบจ.ไตรมาส 1/65 หนุน รัสเซีย-ยูเครนคลี่คลาย เงินทุนไหลเข้า 

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในเดือนมีนาคม 2565 พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 117.92 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.3% จากเดือนก่อนหน้ายังคงอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” โดยนักลงทุนมองว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรกของปี 2565 จะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือความคาดหวังต่อการคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และการไหลเข้าของเงินทุน 

ขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อสถานการณ์ขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย—ยูเครน รองลงมาคือนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED และสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ

ทั้งนี้ผลสำรวจ ณ เดือนมีนาคม 2565 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่าความเชื่อมั่นนักลงทุนบุคคลปรับเพิ่ม 25.1% อยู่ที่ระดับ 113.24 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 22.2% อยู่ที่ระดับ 100.00 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับเพิ่ม 5.9% อยู่ที่ระดับ 100.00 และความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับลด 6.7% มาอยู่ที่ระดับ 133.33

รวมถึงในเดือนมีนาคม 2565 SET Index ปรับตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,619.10-1,698.40 จุด โดย SET index ปรับลงแรงในช่วงสัปดาห์แรกตามตลาดโลกหลังสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย—ยูเครน ส่อแววยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม ตลาดทุนไทยปรับตัวขี้นได้เร็วจากเงินทุนไหลเข้าที่ส่งผลให้ต่างชาติมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม โดยต่างชาติมียอดซื้อสุทธิในเดือนมีนาคมรวม 32,770.51 ล้านบาท และตั้งแต่ต้นปี 2565 ต่างชาติซื้อสุทธิรวม กว่า 108,340.35 ล้านบาท 


นอกจากนี้ ตลาดทุนได้รับข่าวดีจากการที่ ศบค. มีมติให้ยกเลิกการทดสอบ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดส เริ่ม 1 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อภาคท่องเที่ยวของไทย ส่งผลให้ SET Index ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 ปิดที่ 1,695.24 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า 

สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามได้แก่ ผลกระทบจากสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการที่นานาประเทศคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันดิบ แผนการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ซึ่งการประกาศขึ้นดอกเบี้ยรอบแรก 0.25% เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด 

อย่างไรก็ดี ยังเป็นปัจจัยที่น่าติดตามหากอัตราเงินเฟ้อยังสูงกว่าคาดการณ์ซึ่งจะมีผลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบหน้า มาตรการผ่อนคลายต่อการรับมือวิกฤติโรคระบาด Covid-19 ในหลายประเทศซึ่งจะเอื้อให้ธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นตัวเร็วขึ้น ในส่วนของปัจจัยในประเทศได้แก่ การประกาศผลกระกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรกของปี 2565 และสถานการณ์โรคระบาด Covid–19 หลังเทศกาลสงกรานต์