Phones





JDF เทรดวันแรกปิดบวก 111.54% ผู้บริหารคอนเฟิร์มรายได้โต 25%

2022-04-07 16:56:01 382



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - JDF เทรดวันแรกร้อนแรง ราคาหุ้นขึ้นปิดระดับสูงสุดของวันที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 111.54% ด้านผู้บริหารมั่นใจรายได้ปี 65 เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% พร้อมเดินหน้าแผนการขยายธุรกิจสู่ประเทศในกลุ่ม CLMV
 
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้น JDF หรือบริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในตลาด SET เป็นวันแรก โดยราคาหุ้นเปิดการซื้อขายที่ระดับ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 23.08% ก่อนจะปิดการซื้อขายตลอดทั้งวันที่ระดับ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.90 บาท หรือเพิ่มขึ้น 111.54% ซึ่งถือเป็นระดับราคาสูงสุดของวัน
 
นางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ JDF เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายหุ้น JDF ในวันนี้ มีความดีใจมากที่มีผู้ถือหุ้นเข้ามาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันกับบริษัท โดยแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 65 ได้มีการตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 25% จากปี 64 ที่มีรายได้รวม 585.7 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้มองว่ารัฐบาลจะไม่ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 เหมือนในปีที่ผ่านมา รวมทั้งความต้องการอาหารทั้งในห้างสรรพสินค้า และสตรีทฟู้ด เริ่มกลับมาเป็นปกติ โดยการฟื้นตัวเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 จึงคาดว่าผลงานในช่วงดังกล่าวจะดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนเช่นกัน
 
นอกจากนี้ บริษัทมีความพร้อมด้านกำลังการผลิตจากโรงงานเต็มที่จากการสร้างโรงงานใหม่ ซึ่งสามารถรองรับคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) ได้เต็มที่ โดยปีก่อนบริษัทใช้กำลังการผลิตไปประมาณ 30-40% จากทั้งหมด ซึ่งปีนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการใช้กำลังการผลิตได้มากกว่าจำนวนดังกล่าว โดยปัจจุบันบริษัทมีทั้งลูกค้าเก่าและใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น แป้งทอดกรอบ ซึ่งพัฒนาสูตรมาตั้งแต่ม.ค.65 จะเข้ามาสนับสนุนรายได้ในปีนี้
 
สำหรับงบลงทุนในปี 65 บริษัทแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ งบลงทุนปกติใช้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพัฒนาผลิตภัณฑ์ และอีกส่วนจะใช้ปรับปรุงระบบผลิตให้เป็นอัตโนมัติมากขึ้น รวมทั้งบริษัทยังมีความสนใจรุกตลาดกลุ่ม CLMV โดยจะเริ่มต้นในประเทศเวียดนามเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อยข้างอยู่ในระดับสูงสุดในภูมิภาคนี้ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 65
 
โดยเบื้องต้นบริษัทจะเข้าไปจัดตั้งออฟฟิศและมีการตั้งห้องแล็บ ส่วนผลิตภัณฑ์จะส่งออกจากประเทศไทยได้ในช่วงปลายปี 65 ต้นปี 66 ในส่วนของธุรกิจกัญชงปัจจุบันอยู่ระหว่างรอกฎเกณฑ์จากองค์การอาหารและยา(อย.) ในเรื่องผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ส่วนธุรกิจต้นน้ำบริษัทเซ็นสัญญา(MOU) เรียบร้อยแล้ว ด้านการวิจัยและสูตรต่างๆ เริ่มพัฒนาพร้อมไปกับลูกค้ารอเพียงใบอนุญาตเท่านั้น