Phones





BAY คาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 34.00-34.75 รอรายงานประชุมเฟด

2022-05-23 20:20:00 2404



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – โกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ประเมินค่าเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.00-34.75 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.29 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 34.25-34.72 บาท/ดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินย่อลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี
 
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.00-34.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังซื้อขายในกรอบ 34.25-34.72 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินย่อลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี และเป็นการปรับฐานลงครั้งใหญ่นับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.65
 
ด้านประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แสดงความมุ่งมั่นว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อลดลงอย่างชัดเจน โดยเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกมากเท่าใดและเร็วแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ขณะที่เฟดจะประเมินในแต่ละรอบการประชุมและจะพิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ท่าทีดังกล่าวสนับสนุนการคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่าอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายของเฟดจะแตะระดับ 2.75-3.00% ภายในสิ้นปี 65 จาก 0.75-1.00% ในปัจจุบัน ส่วนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แสดงความเห็นที่หนักแน่นมากขึ้นต่อความจำเป็นสำหรับการปรับนโยบายเพื่อดูแลเงินเฟ้อ ส่งผลให้เงินยูโรได้แรงหนุนจากช่องว่างนโยบายการเงินระหว่างเฟดกับอีซีบีที่อาจแคบลง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยมูลค่า 9,362 ล้านบาท และ 12,604 ล้านบาท ตามลำดับ
 
อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดจะติดตามรายงานประชุมเฟดเมื่อวันที่ 3-4 พ.ค.65 และข้อมูลใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดหลายรายการเริ่มบ่งชี้การชะลอตัว ซึ่งมองว่าอาจเร็วเกินไปที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะพลิกแนวโน้มกลับเป็นขาลงในเวลานี้ อย่างไรก็ดี เริ่มมีสัญญาณเบื้องต้นว่าดอลลาร์สหรัฐฯไม่ตอบสนองเชิงบวกต่อการปิดรับความเสี่ยง บ่งชี้ว่าตลาดกำลังกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งอาจกดดันบอนด์ยิลด์ในระยะถัดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเฟดแสดงท่าทีวิตกต่อภาวะตลาดการเงินตึงตัวและระมัดระวังต่อการคุมเข้มนโยบายในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจีนผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วขณะที่จีนจะกลับมาเปิดกิจกรรมต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปอีกครั้ง
 
สำหรับปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานข้อมูลส่งออกนำเข้าเดือนเมษายน ทางด้านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าไทยไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตามสหรัฐฯ เนื่องจากต้องดูปัจจัยภายในเป็นหลัก ขณะที่การเคลื่อนย้ายเงินทุนขณะนี้ยังไม่เป็นประเด็น อีกทั้งไทยมีฐานะด้านต่างประเทศที่มีเสถียรภาพสามารถรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ ทางการมองค่าเงินบาทที่ผันผวนสูงเกิดจากปัจจัยภายนอก ซึ่งธปท.จะติดตามใกล้ชิด