Phones





‘อนันดา’ ชูจุดเด่นหุ้นกู้ ดอกเบี้ยสูงสุด5.60%ต่อปี

2022-06-01 11:12:43 1927




นิวส์ คอนเน็คท์ - อนันดาฯ พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ 2 รุ่น ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ชูจุดเด่น อัตราดอกเบี้ยสูง 5.60% ต่อปี กำหนดวันจองซื้อระหว่างวันที่ 10 และ 13-14 มิถุนายนนี้ ผ่าน 7 สถาบันการเงิน พร้อม Take Off ด้วยการนำเสนอที่พักอาศัยที่หลากหลายตอบโจทย์คนกรุงที่กลับมาใช้ชีวิตปกติหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ด้วยโครงการในมือและโครงการพร้อมส่งมอบในระยะเวลา 2 ปีที่จะสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องอีกกว่า 58,725 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมที่จะเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 1 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันในระหว่างวันที่ 10 และ 13-14 มิถุนายน 2565 โดยหุ้นกู้และบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ที่ระดับ “BBB-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) 

สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งสถาบันการเงิน 7 แห่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด

“เราได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นจากสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ว่า มีนักลงทุนสนใจสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่า ปัจจัยที่ทำให้หุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับความสนใจ นอกจากจะมาจากอายุของหุ้นกู้ที่ไม่ยาวเกินไป ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และอันดับความน่าเชื่อในระดับ “ลงทุนได้” (Investment grade) แล้ว ยังมีเรื่องของจังหวะเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะภาพรวมของประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการเปิดเมือง เราจะเห็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจคึกคักขึ้น นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามา การจองห้องพักก็เพิ่มมากขึ้น การจราจรคับคั่งขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยบวกกับบริษัทฯ ในฐานะผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าคนเมืองได้เป็นอย่างดี เป็นช่วงเวลาที่เราพร้อมแล้วสำหรับการ Take Off โดยเรามีสินค้าที่ดีมีคุณภาพที่มีความหลากหลาย พร้อมที่จะส่งมอบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในราคาต้นทุนเดิม” นายชานนท์กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยในมือ (Backlog) รวมถึงโครงการพร้อมอยู่ที่พร้อมส่งมอบในระยะเวลา 2 ปี อีกกว่า 58,725 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งด้านโครงการ และโอกาสการรับรู้รายได้ในอนาคตที่จะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ที่คาดว่า จะมีการรับรู้รายได้จากยอดขายอย่างก้าวกระโดด จากการเตรียมรับรู้รายได้ใน 2 โครงการที่สร้างเสร็จใหม่ล่าสุดมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการใหม่อีก 6 โครงการที่เตรียมจะปิดการขายภายในปีนี้มูลค่ากว่า 9,812 ล้านบาท ส่วนแผนการเปิดโครงการใหม่ทั้ง 7 โครงการ มูลค่ากว่า 29,098 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ คาดว่าจะได้รับการตอบรับด้วยดีเหมือนที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่คาดว่า จะสามารถรับกระแสเงินสดที่เป็นรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) จาก 5 โครงการเซอร์วิสอพารท์เม้นท์อย่างต่อเนื่อง