Phones





ORI โชว์ยอดขายครึ่งปี 1.7หมื่นล. ลุยเปิด20โครงการใหม่

2022-07-05 19:14:50 209



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - ORI โชว์ยอดขายช่วงครึ่งปีแรกทำได้ 17,772ล้านบาท หลังไตรมาส 2/65 ทำยอดขายได้กว่า 9,623 ล้านบาท มั่นใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงแกร่งจากหลายปัจจัยบวก เตรียมเปิดคอนโด-บ้านเพิ่มอีก 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 26,500 ล้านบาท หนุนยอดขายทะลุ 35,000 ล้านบาท สร้างสถิติ All Time High ตามเป้า
 
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 65 (ม.ค.-มิ.ย.) บริษัทมียอดขายสะสมจากโครงการที่อยู่อาศัยในเครือทั้งสิ้น 17,772 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ถึงกว่า 13% และคิดเป็น 51% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 35,000 ล้านบาท
 
โดยยอดขายดังกล่าว แบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม 73% กลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 27% หากแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วนยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) 61% และจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (On-going) ราว 39% หากนับเฉพาะยอดขายในช่วงไตรมาส 2/65 บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึงกว่า 9,623 ล้านบาท นับเป็น All Time High ใหม่ ของบริษัท
 
ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมเจาะตลาดผู้บริโภค Gen Y ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) และออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น (Origin Plug & Play Nonthaburi Station) มียอดขายสะสมสูงกว่า 70% และโครงการคอนโดมิเนียมเจาะตลาดผู้บริโภคไฮเอนด์ โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์ (So Origin Kaset Interchange) มียอดขายสะสมสูงกว่า 90% ขณะเดียวกัน โครงการใหม่ซึ่งเจาะตลาดผู้บริโภค Niche ในแถบเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างบริกซ์ตัน แคมปัส บางแสน (Brixton Campus Bangsaen) ก็สามารถปิดการขาย (Sold Out) ได้อย่างรวดเร็วใน 1 เดือน
 
“แม้ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์, บริกซ์ตัน รวมถึงโซ ออริจิ้น จะเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในปีที่แล้วและปีนี้ แต่เรายังได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพราะเราทำการบ้านอย่างหนักเรื่อง Customer Insight ปรับตัวเร็ว ปรับตัวไว และพัฒนาแต่ละโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยุคใหม่ ทั้งการทำห้อง Duo Space เพดานสูง 4.2 เมตร เพิ่มความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวางในการใช้ชีวิต การเปิดตัวคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ในหลากหลายทำเล ไปจนถึงการออกแคมเปญสร้างสีสันและกระตุ้นตลาดอย่าง “Multiverse of Sales” และ “โปรแร๊ง เกินปุยมุ้ย” ที่สยามพารากอน เพิ่มโอกาสการเข้าถึงคอนโดมิเนียมคุณภาพ ในราคาจับต้องได้ ให้แก่ผู้บริโภค” นายพีระพงศ์ กล่าว
 
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 นั้น บริษัทยังคงเฝ้าติดตามหลากหลายประเด็นที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้คน สภาพเศรษฐกิจ และสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การแพร่ระบาดและความรุนแรงของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 สถานการณ์เงินเฟ้อ การปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อมั่นว่าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าอย่างจริงจังในการรับมือกับปัจจัยทั้งหมดข้างต้น ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายเซ็กเมนท์ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากอัตราการดูดซับของโครงการในหลายทำเล ที่ยังคงมีแนวโน้มที่ดี
 
ทั้งนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมในครึ่งปีหลังอีก 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 26,500 ล้านบาทตามแผน แบ่งเป็น กลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม 10 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 15,600 ล้านบาท กระจายตัวทั้งตลาดคอนโด Gen Z, Gen Y, ไฮเอนด์ ไปจนถึงตลาดซูเปอร์ลักชัวรี และกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 10 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 10,900 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการรุกหนักในช่วงไฮซีซั่น หลังจากที่ครึ่งปีแรกเปิดตัวใหม่ไปเพียง 2 โครงการ ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ให้พร้อมปรับตัวกับทุกปัจจัยภายนอก และความพร้อมในการบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทมั่นใจว่า จะสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 35,000 ล้านบาท และสร้างสถิติ All Time High ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้