โดยผู้ลงทุนแสดงความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเงินเฟ้อที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบหลายสิบปี อีกทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเติบโตในระดับต่ำ ซึ่งมีความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซา หรือ Stagflation ทำให้ผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์หลักหลายแห่งปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดของปีไปกว่า 20% หรือเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) โดยเริ่มเห็นการพิจารณาเพิ่มสัดส่วนเงินสดใน portfolio ทำให้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 SET Index ปิดที่ 1,568.33 จุด ปรับลดลง 5.7% จากเดือนก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ปรับลดลงเพียง 5.4% ซึ่งลดลงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 SET Index ปิดที่ 1,568.33 จุด ปรับลดลง 5.7% จากเดือนก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ปรับลดลงเพียง 5.4% ซึ่งลดลงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค
SET Index ใน 6 เดือนแรกปี 2565 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มเกษตรและอุสาหกรรมอาหาร กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์