Phones





BAYส่องกรอบเงินบาท 36.50-36.95 ลุ้นประชุมเฟด- จีดีพีสหรัฐฯ

2022-07-25 18:17:15 1126



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – BAY ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 36.50-36.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ คาดนักลงทุนตามติดผลการประชุมเฟด โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
 
นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50-36.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิด อ่อนค่าที่ 36.72 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังซื้อขายในกรอบ 36.53-36.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 16 ปีครั้งใหม่ และเคลื่อนไหวผันผวนตามราคาทองคำในตลาดโลก เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
ในส่วนของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากอ้างอิง 0.50% สู่ระดับ 0% ถือเป็นการยุติการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบที่ใช้มา 8 ปี และประเดิมขึ้นดอกเบี้ยในรอบ 11 ปี โดยเป็นการปรับขึ้นมากกว่าที่อีซีบีเคยระบุไว้เดิมว่าจะขึ้น 0.25% ในเดือนนี้ ขณะที่อีซีบีประเมินว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง อีซีบีได้ยกเลิก Forward Guidance เพื่อหลีกเลี่ยงการผูกมัดในการดำเนินนโยบายโดยส่งสัญญาณว่าการปรับดอกเบี้ยขึ้นอีกจะเป็นไปตามข้อมูลที่ได้รับ
 
นอกจากนี้ อีซีบีชี้แจงเกี่ยวกับการซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการTransmission Protection Instrument เพื่อดูแลต้นทุนการกู้ยืมสำหรับรัฐบาลของประเทศสมาชิกยูโรโซน โดยการใช้เครื่องมือนี้จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอีซีบี ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษตามคาด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 889 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตร 3,534 ล้านบาท
 
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 27 ก.ค.65 ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 2.25-2.50% รวมถึงข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/65 ของสหรัฐฯ โดยนักลงทุนจะติดตามการประเมินภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของเฟดเพื่อจับสัญญาณว่าเฟดจะเริ่มลดความแข็งกร้าวต่อการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปหรือไม่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯร่วงลง โดยอัตราแลกเปลี่ยนอาจแกว่งตัวออกด้านข้างในช่วงต้นสัปดาห์ขณะที่ผู้ร่วมตลาดบริหารความเสี่ยงก่อนทราบผลประชุมเฟดและตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ
 
สำหรับปัจจัยในประเทศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เน้นย้ำว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป แต่หากขึ้นดอกเบี้ยแล้วเงินเฟ้อยังไม่เข้าสู่กรอบ ธปท.อาจต้องคุมเข้มนโยบายมากกว่าปกติ โดยธปท.ประเมินว่าผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะน้อยกว่าผลจากเงินเฟ้อที่จะลดทอนกำลังซื้อ ท่าทีดังกล่าวสนับสนุนมุมมองของตลาดที่ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% จากระดับ 0.50% ในการประชุมวันที่ 10 ส.ค.นี้