Phones





ก.คมนาคมเร่ง 10 นโยบายด่วน

2019-07-31 01:05:57 222






นิวส์ คอนเน็คท์ - ก.คมนาคมมอบนโยบายเร่งด่วน แก้ปัญหาจราจร เตรียมปรับเวลาการเดินรถบรรทุกเป็นเที่ยงคืนถึงตี 4 กำหนดความเร็วรถบนถนน 4 ช่องจราจรไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมเตรียมปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่รัฐดูและ100%


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดว่า นโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมประกอบด้วย 1.การแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 โดยทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้กรอบงบประมาณที่กำหนด


พร้อมกันนี้ต้องเร่งแก้ไขปัญหามลภาวะ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากรถบรรทุก รถโดยสารสาธารณะ โดยเข้มงวดการตรวจสอบสภาพรถให้เป็นไปตามกฎหมาย การปรับเวลารถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจาก 10.00 – 15.00 น. เป็น 00.00 – 04.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรและการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุบัน


ประกอบกับการกำหนดอัตราความเร็วถนน 4 ช่องทางจราจรขึ้นไป ให้ใช้อัตราความเร็วได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อระบายการจราจรให้คล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูล และนำเสนอแผนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน


ส่วนเรื่องที่ 2. สร้างทางเลือกใหม่ โดยการให้บริการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่น และกำหนดแนวทาง มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะ (TAXI) รูปแบบเดิม โดยมอบให้กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการศึกษารูปแบบ เงื่อนไขการอนุญาตบริการรถรับจ้าง โดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมศึกษากำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะ (TAXI) ในปัจจุบัน ให้มีการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษา และนำเสนอแผนงาน พร้อมแนวทางปฏิบัติให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน


เรื่องที่ 3. การพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาจัดทำแผนการใช้บัตรโดยสารเชื่อมโยงรถไฟฟ้าทุกระบบ พร้อมทั้งจัดทำแผนแก้ปัญหาด่านเก็บเงินทางพิเศษ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) ให้รถสามารถผ่านด่านเก็บเงินได้อย่างรวดเร็ว ลดความแออัดของรถบริเวณหน้าด่าน


เรื่องที่ 4. ลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนโดยการพัฒนาการให้บริการรถโดยสารประจำทาง ขสมก. และรถร่วมโดยสารประจำทาง ให้เป็นรถโดยสารปรับอากาศทั้งระบบ และมีการจัดเก็บค่าโดยสารเป็นระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E–Ticket ระบบตั๋วร่วม ศึกษาแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยจะเริ่มจากรถไฟฟ้าที่รัฐดูแลเอง 100% เช่น แอร์พอร์ตลิ้งค์ รถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟสายสีแดง และศึกษาแนวทางการปรับลดค่าผ่านทางพิเศษทุกประเภท (ทางพิเศษ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โทลล์เวย์) ตั้งแต่ 5 – 10 บาท โดยไม่มีผลกระทบต่อสัญญา ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทาง พร้อมนำเสนอแผนงานแนวทางปฏิบัติ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน


ขณะที่เรื่อง 5. พัฒนาการคมนาคมขนส่งทางราง ประกอบด้วยการพัฒนารถไฟทางคู่เพิ่มการขนส่งระบบราง 30% ภายในเวลา 3 ปี เพื่อให้เป็นระบบโลจิสติกส์หลักในการขนส่งสินค้า การสนับสนุนภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษา วิจัย และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากรางที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสามารถใช้ให้เกิดผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าสูงสุดในอนาคต เพื่อให้บริการประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ


6. พัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำให้เป็นการเดินทางและการขนส่งทางเลือกในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเชื่อมโยงกับการคมนาคมขนส่งระบบอื่น ๆ ได้ พร้อมทั้งการพัฒนาการขนส่งทางน้ำจากท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อลดปริมาณรถบรรทุกจากภาคใต้เข้าสู่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล


7. พัฒนาการคมนาคมขนส่งทางอากาศ โดยการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งทางอากาศ เพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูมิภาค ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 150 ล้านคนภายใน 3 ปี พร้อมทั้งสนับสนุนสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) ให้บริการประชาชนในภูมิภาคเพิ่มขึ้น และให้มีคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานสากล


ส่วนเรื่องที่ 8. การจัดทำโครงการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคมให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยใช้หลักการ Thai First คือ ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน เป็นหลักสำคัญ การใช้วัสดุทดแทนที่ผลิตจากยางพารา ในโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยยกระดับราคายางพารา รวมถึงส่งเสริมให้ท่าอากาศยานภูมิภาคเป็นศูนย์กลางรวบรวมผลผลิต และกระจายสินค้าเกษตรออกสู่ตลาด


เรื่องที่ 9. การดำเนินการใด ๆ ตามกฎหมายโดยเคร่งครัด โดยการทำงานของทุกหน่วยงานต้องยึดถือความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นสำคัญ และ 10. เปิดรับฟังข้อมูลจากข้าราชการ และสหภาพรัฐวิสาหกิจ ของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาประกอบการตัดสินใจของฝ่ายนโยบายต่อไป