Phones





AGE โชว์กำไรปี 65 สูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 1,248 ล้านบาท

2023-02-22 13:42:44 63



นิวส์ คอนเน็คท์ - AGE ท็อปฟอร์ม โชว์กำไรทำสถิติต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานปี 65 พุ่งทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รายได้รวมแตะ 18,815.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% ขณะที่กำไรสุทธิ แตะ 1,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.6% ล่าสุดบอร์ด เคาะปันผลเป็นครั้งที่สอง หุ้นปันผล 10 ต่อ 1 หุ้น และเงินปันผล 0.2256 บาท จ่อ XD วันที่ 14 มี.ค.66 เพื่อจ่ายวันที่ 17 พ.ค.66
     
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า แจ้งผลการดำเนินงาน ประจำงวดปี 2565 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 18,815.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) และมีอัตรากำไรสุทธิในปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น แตะระดับ 1,248 ล้านบาท หรือ 95.6 % ซึ่งผลการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นการทำสถิติออลไทม์ไฮ และมีปริมาณการขายถ่านหินรวมในปี 2565 อยู่ที่ 4.1 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นปริมาณการขายถ่านหินในต่างประเทศ ที่ 0.26 ล้านตัน และปริมาณการขายถ่านหินในประเทศ ที่ 3.8 ล้านตัน

ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ ในปี 2565 อยู่ที่ 2,074 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7% (YoY) แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือ AGE จำนวน 1,462 ล้านบาท และรายได้จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอกซึ่งรวมรายได้จากการขายน้ำมัน และสินค้าเกษตร อยู่ที่ 612 ล้านบาท

“ปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาส่วนต่างราคาขาย และต้นทุนของราคาถ่านหินได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงที่ราคาถ่านหินมีความผันผวนสูง รวมไปถึงการมีต้นทุนการขนส่งที่สามารถแข่งขันได้จากการมี facility การขนส่งและการดำเนินการ ที่ครบวงจร และการรับรู้รายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งให้บริการกลุ่มลูกค้าภายนอก ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม อาทิเช่น ปูนซีเมนต์-ทราย-แก้ว และกากอุตสาหกรรม รวมทั้งการทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจเช่าซื้อรถบรรทุก ที่เริ่มรับรู้รายได้ในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา”  

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เตรียมนำมติเสนอต่อผู้ถือหุ้น ในวาระเพื่อขออนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค.65) เป็นหุ้นอัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น พร้อมจ่ายปันผลเป็นเงินสดอัตราในอัตราหุ้นละ 0.2256 บาท รวมเป็นเงินปันผล ทั้งหมดประมาณ 299,784,204.70 บาทโดยกำหนดวันรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 15 มีนาคม 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 14 มีนาคม 2566 เพื่อดำเนินการจ่ายปันผลตามผลการดำเนินงานประจำปี ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 หลังจากที่มีการจ่ายปันผลพิเศษระหว่างกาลไปแล้วเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา

ประธานกรรมการบริหาร “AGE” กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2566 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าของรายได้รวมที่ 23,400 ล้านบาท ผ่านกลยุทธ์การขับเคลื่อน “AGE 4 มิติ” เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สู่การเติบโตแบบยั่งยืนในอนาคต ประกอบด้วย

1. มิติการขยายตลาดในกลุ่มธุรกิจถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าปริมาณการขายถ่านหินสำหรับปีนี้ไว้ที่ระดับ 5.2 ล้านตัน  

2. มิติการขยายการให้บริการขนส่งในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ โดยในปีนี้ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ระดับ 235 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อรถบรรทุก เพิ่มขึ้นอีก 52 พ่วง ซึ่งทยอยรับมอบมาแล้วในช่วงต้นปี 2566 จำนวน 22 พ่วง เพื่อรองรับงานให้บริการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ และยังมีการลงทุนขยายพื้นที่คลังจัดเก็บสินค้าและโรงงานคัดแยกหลังที่ 5 มูลค่า 50 ล้านบาท รวมถึงลงทุนในระบบบริหารจัดการ IT มูลค่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้สูงขึ้น

3. มิติการขยายการให้บริการในกลุ่มธุรกิจลิสซิ่ง โดยในปี 2565 บริษัทได้มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก ให้กับพนักงานขับรถที่มีผลงานดีของบริษัท ภายใต้โครงการ "เถ้าแก่น้อย" เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเป็นเจ้าของรถบรรทุกเองได้ โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกเช่าซื้อให้กับ พันธมิตรและ ผู้ร่วมโครงการ "เถ้าแก่น้อย" เพิ่มเป็น 500 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีการปล่อยสินเชื่อ ไปแล้ว 50 ล้านบาท โดยเริ่มรับรู้รายได้แล้ว 0.5 ล้านบาท เมื่อปลายปี 2565

4. มิติธุรกิจขยายตลาดในธุรกิจเทรดดิ้งสินค้าเกษตร โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้า รายได้การธุรกิจการขายสินค้ามันสำปะหลัง อยู่ที่ 400 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ภายใต้แผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ บริษัทฯยังคงเดินหน้า เพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการต้นทุนในด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการดูแลบริหารจัดการความเสี่ยงของธุรกิจและความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน