Phones





"NER" 3 โบรกฯ แนะนำ "ซื้อ" หลังแผนสร้างโรงงานที่ 3 และจีนเปิดประเทศ

2023-03-21 13:38:03 262



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก 3 โบรกเกอร์ได้ออกบทวิเคราะห์ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER พบว่ามีความเห็นตรงการในด้านของการแนะนำ "ซื้อ" สะท้อนจากพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งและมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเอสแอล ระบุว่า จากการวิเคราะห์ NER ได้แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 7.85 บาทสะท้อนแรงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวลงตั้งแต่ช่วง ไตรมาส 4/65 แต่คาดจะค่อยฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/66 หลังจากที่จีนมีการเปิดประเทศแล้ว ราคายางฟื้นตัวรวมถึงต้นทุนร0าคายางเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังคงควบคุมได้ดี มีแผนขยายโรงงานที่3 เพื่อเพิ่ม Capacity รองรับคำสั่งซื้อเพิ่มคาดแล้วเสร็จปี 2024

ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ช่วงไตรมาส 1/66 ยังรับผลกระทบจากราคายางที่ปรับตัวลงแรงในไตรมาส 4/65 จากส่วนที่มีการขายล่วงหน้าอยู่ แต่จะดีขึ้นหลังจากไตรมาสนี้ด้วยการเปิดประเทศของจีนและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยหนุนราคายางปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี และบริษัทฯมีแผนหาลูกค้าเพิ่มทั้งยุโรปและจีน ปัจจุบันมีลูกค้ารายใหญ่เข้าร่วมทดสอบสินค้าแล้ว, คาดปี 66 กำไรสุทธิปี 1,974 ลบ.+13.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 6.30 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”

ขณะที่บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ให้ข้อมูลว่า ทางฝ่ายคงคำแนะนำ “Outperform” โดย Valuation Matrix บ่งชี้ว่าราคาหุ้นยังมี upside จากมูลค่าเหมาะสมปัจจุบันที่ 7.62 บาท (บนอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังที่ 13.6%) ส่วน 24M FV ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (8.30 บาท) จากความต้องการใช้ยางพาราที่แข็งแกร่ง หนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง (ยางรถยนต์ ยานยนต์ และยานยนต์ไฟฟ้า) ขณะที่ความเสี่ยงเชิงเทคนิคอยู่ในระดับปานกลาง

คาดผลตอบแทนจากหุ้น (earnings yield) อยู่ในระดับที่จูงใจราว 16.9%ในปี 2023E และ 19.9% ในปี 2024E ขณะที่ค่า beta ที่สูงกว่า 2.5 เท่า (leveraged beta สะท้อนคาดการณ์ D/E ratio ที่สูงกว่า peers จากการบริหารจัดการแหล่งเงินรองรับปริมาณสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อล่วงหน้าของลูกค้า) ท่ามกลางความเสี่ยงขาลงที่จำกัดของ SET คาดจะหนุนให้ราคาหุ้น NER มีโอกาส outperform SET ในระยะถัดไป