Phones





SAV จ่อขาย IPO 224 ล้านหุ้น คาดเทรด SET ปลายปีนี้

2023-06-14 13:50:46 70




นิวส์ คอนเน็คท์ - SAV ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เตรียมขาย IPO จำนวนไม่เกิน 224 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท คาดแล้วเสร็จและเข้าเทรด SET ได้ในช่วงปลายปีนี้ หวังนำเงินระดมทุนชำระคืนเงินกู้-หมุนเวียนในบริษัท

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยว่า เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 224,000,000 หุ้น หรือไม่เกิน 35% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ แบ่งเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 64,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 10% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว และหุ้นสามัญเดิมและจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 30% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว โดยมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 0.50 บาท

โดยปัจจุบันบริษัท SAV ได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในช่วงปลายปี 66 นี้

สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้มาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่มีอยู่ราว 1,000 ล้านบาท รวมถึงเพื่อรองรับโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ 

นอกจากนี้ SAV ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงถึง 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งเมื่อบวกกับความสามารถในการทำกำไรและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งแล้ว เชื่อว่า SAV จะเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวอย่างแน่นอน

นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV กล่าวว่า SAV เป็นบริษัท โฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจหลัก คือ การให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร ผ่าน บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ซึ่ง “SAV” ถือหุ้นใน CATS 100% โดย CATS เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาระยะเวลารวม 49 ปี (2545-2594) ) ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมเส้นทางบินทั้งหมดของน่านฟ้าประเทศกัมพูชา โดยปัจจุบัน กัมพูชามีสนามบิน 6 แห่ง ได้แก่

สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง โดยรายได้หลักของ CATS มาจากบริการควบคุมการจราจรทางอากาศ 3 ประเภท ได้แก่ 1.รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing &Take-off : Domestic) 2.เที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) 3. รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight) 

ในปี 2565 บริษัท SAV มีรายได้รวม เท่ากับ 1,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้รวม 724 ล้านบาทในปีก่อนหน้าและ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 199.5 ล้านบาท ทั้งนี้หลังจากผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 มีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวทั้งในประเทศกัมพูชาและประเทศในภูมิภาคอาเซียนกลับมาเติบโต SAV มีผลการดำเนินงานที่กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย SAV มีจุดเด่นหลายประการ คือ 

1.เป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร เพียงรายเดียวในกัมพูชา 2.มีรายได้ประจำทั้งจากทุกเที่ยวบินที่ขึ้น-ลงในประเทศกัมพูชา 3.มีรายได้ประจำจากทุกเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา โดยเฉพาะเที่ยวบินไปเวียตนามซึ่งเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยยะจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุนและการท่องเที่ยวอย่างสูง 4.SAV มีระยะเวลาสัมปทานอีก 29 ปีและสามารถต่อระยะเวลาสัมปทานได้อีก 5. ธุรกิจวิทยุการบิน ลงทุนต่ำและให้ผลตอบแทนสูง และไม่มีคู่แข่ง 6. การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาและอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตสูง

นายวัฒนชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า กลุ่มสามารถ ได้ลงทุนในหลายกลุ่มธุรกิจมากกว่า 60 ปี โดยเริ่มลงทุนในธุรกิจด้านการบินที่ประเทศกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545 และ SAV (ซึ่งกลุ่มสามารถถือหุ้นในบริษัทฯ 100% โดย บริษัท สามารถ ยู-ทรานส์ จำกัด ถือหุ้น 66.67% และบริษัท สามารถ อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 33.33%) เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสัมปทานด้านบริการวิทยุการบินครบวงจรในประเทศกัมพูชา โดยบริษัทลงทุนในเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ และ ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายระยะเวลาสัมปทานต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง และสัมปทานล่าสุดครอบคลุมถึงปี 2594 ทำให้ธุรกิจของ SAV มีเสถียรภาพอย่างสูง  

 “เมื่อ SAV เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์จะเป็น การ Unlock Value หรือ ปลดปล่อยศักยภาพและมูลค่าของกลุ่มสามารถ เนื่องจาก SAV เป็นบริษัทฯที่มีศักยภาพสูง อยู่ในอุตสาหกรรมการบินที่เติบโตสูงและต่อเนื่อง อีกทั้งมีผลการดำเนินงานที่ดี ธุรกิจมีความมั่นคงสูง มีความสามารถในการทำกำไรสูง และเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมการบินในเอเชียมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการขยายตัวของการลงทุนและการท่องเที่ยวในอาเซียน” นายวัฒนชัย กล่าว