นิวส์ คอนเน็คท์ - SONIC ปั้นผลงานปีหน้าโต 20% หลังปรับโมเดลธุรกิจใหม่-ขยายธุรกิจผ่านการลงทุนเพิ่ม อัดงบลงทุน 204 ล้านบาท ปรับปรุ่ง-ขยายคลังสินค้า ยอมรับปีนี้ผลงานพลาดเป้ารับผลกระทบส่งออกฝืด

เมื่อวันที่22 พฤศจิกายน 2562 นายสันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2563 จะยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีนี้ โดยบริษัทคาดว่ารายได้รวมจะสามารถเติบโตได้ประมาณ 20% จากธุรกิจบริการขนส่งทางเรือ (Sea Freight), ธุรกิจบริการขนส่งทางบก รวมถึงเส้นทางขนส่งแบบข้ามพรมแดน (Cross-bordertransport), ธุรกิจการจัดการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) และการบริหารจัดการ มีทิศทางการฟื้นตัวที่ดี

โดยบริษัทคาดภาพรวมเศรษฐกิจและการส่งออกในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในปี 2563 บริษัทเตรียมปรับรูปแบบกองรถให้บริการ เป็นแบบการสนับสนุนสินเชื่อในการออกรถ และรับประกันปริมาณงานให้กับผู้รับเหมาช่วง จากเดิมที่บริษัทใช้วิธีการขยายกองรถด้วยตัวเอง ซึ่งบริษัทจะรับรู้รายได้จากการให้เช่าและบริหารคลังสินค้าให้กับผู้ประกอบการ E-Commerce

พร้อมกันนี้ในปี 2563 บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 204 ล้านบาท เพื่อที่จะปรับปรุงคลังสินค้า ขนาดพื้นที่รวมประมาณ 4,000 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท รองรับผู้ประกอบการในประเทภ E-Commerce ที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 164 ล้านบาท จะใช้ในการขยายคลังสินค้าขนาดพื้นที่รวมประมาณ 10,000 ตารางเมตร โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 7 เดือน ซึ่งจะรองรับการเติบโตในปี 2564 ซึ่งแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดที่มีในมือ และการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดย ณ สินไตรมาส 3/2562 บริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.41 เท่า

อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินกับบริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) ขนาด 21 ไร่ หรือคิดเป็นพื้นที่รวม 34,529.60 ตารางเมตร ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการปิ่นทอง แลนด์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต

โดยได้แบ่งพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็น 2 เฟส ซึ่งเฟส 1 บนที่ดินขนาด 12 ไร่ พัฒนาเป็นพื้นที่รองรับการจอดรถ และเป็นพื้นที่พักตู้สินค้า จะสร้างแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี 2562 และจะเริ่มเปิดใช้พื้นที่และสร้างรายได้ในปี 2562 ส่วนเฟส 2 บนพื้นที่ 9 ไร่ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างหลังจากนี้ รองรับการเติบโตของโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นหลัก

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2562 จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนอย่างต่อเนื่อง รายได้รวมในปีนี้จะเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,156.11 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกของประเทศไทยได้รับผลกระทบ ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมแล้ว 853.55 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33.30 ล้านบาท