Phones





PCC ติดโผเข้าคำนวณดัชนี sSET กางแผน 3 ปี รายได้แตะ 6 พันล.

2023-07-18 09:42:28 130



นิวส์ คอนเน็คท์ - PCC เฮ! ติดโผเข้าคำนวณดัชนี sSET ในช่วงครึ่งหลังของปี 66 ตอกย้ำปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ฟาก “กิตติ สัมฤทธิ์” ประเมินรายได้ปีนี้เติบโตต่อเนื่อง ตามภาพรวมอุตสาหกรรม เผยปริมาณรถ EV-สถานีชาร์จ รวมถึงการใช้ Solar cell ที่เพิ่มขึ้นมาก พร้อมกางแผนยาว 3 ปี รายได้แตะ 6,000 ล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ PCC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี sSET ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 (1 ก.ค.-31 ธ.ค.66) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 66 โดย PCC เป็น 1 ใน 21 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์เข้าใหม่ สะท้อนว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอ และมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยตามที่กำหนด ซึ่งการเข้าคำนวณดัชนี sSET จะทำให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง

โดยดัชนีราคา sSET เป็นดัชนีราคาหุ้นที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสามัญซึ่งอยู่นอกเหนือดัชนี SET50 และ SET100 ที่มีอยู่เดิม กลุ่มหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นสามัญที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอและมีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่า 20% ของทุนชำระแล้วของบริษัท ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่าง 1 มิ.ย.65 ถึง 31 พ.ค. 66

สำหรับแผนธุรกิจในปี 66 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ 4,860 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ยังมีโอกาสการเติบโตตามอุตสาหกรรมไฟฟ้า เพราะระบบไฟฟ้ามีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการที่มีจำนวนรถไฟฟ้า (EV) และ สถานีชาร์จ (Charging Station) รวมถึงการลงทุน Solar cell จากบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจโซลูชั่นครบวงจรของระบบ Smart Grid หรือ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีหลากหลายประเภทเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยครอบคลุมตั้งแต่การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีทั้งห่วงโซ่ของระบบไฟฟ้าตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า การส่งไฟฟ้า การจำหน่ายไฟฟ้า ไปจนถึงภาคส่วนของผู้บริโภค ได้อย่างชาญฉลาด รวมถึงการสื่อสารในการเก็บข้อมูลและทำการสั่งการควบคุม ถือเป็นโอกาสของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตอีกมากในอนาคต 

สำหรับแผนธุรกิจ 3 ปี (66-68) บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้แตะ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะมีการลงทุนด้านสมาร์ทกริดที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างแน่นอน