Phones





TIA เดินหน้าให้ความรู้การดำเนินคดีแบบกลุ่ม “Class Action”

2023-07-26 15:25:37 153



นิวส์ คอนเน็คท์ - สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ร่วมมือ ธนาคารแห่งประเทศไทย สัมมนาสัญจร ให้ความรู้การดำเนินคดีแบบกลุ่ม “Class Action” ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มผู้นำทางสังคม - ทนายความ – บจ. และ โบรกเกอร์ กว่า 100 คนเข้าร่วมฟัง หวังเป็นกลไกหนึ่งในการดูแลและรับมือ “ภัยในตลาดเงิน และ ภัยในตลาดทุน”

นายยิ่งยง นิลเสนา นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) เปิดเผยว่า สมาคมฯ เดินหน้าให้ความรู้ และผลักดันให้กฎหมาย ฟ้องคดีแบบกลุ่ม - Class Action เข้ามาเป็นกลไกในการดูแล ช่วยเยียวยาผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหาย หากเกิดกรณีถูกฉ้อฉล ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการลงทุน ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ก.ค 2566 สมาคมฯ ได้จัดสัมมนาสัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นการจัดงานครั้งที่ 2 ของ TIA ในการเดินสายให้ความรู้ เรื่อง การฟ้องคดีแบบกลุ่ม - Class Action โดยมีกลุ่มผู้นำทางสังคม กลุ่มบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม กลุ่มทนายความ กลุ่มนักลงทุน กลุ่มโบรกเกอร์ กลุ่มนักวิชาการด้านกฎหมาย กลุ่มข้าราชการปกครอง และกลุ่มสื่อมวลชน กว่า 100 คนเข้าร่วมสัมมนา
  
“สมาคมฯ จะจัดสัมมนาสัญจร ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) ต่อเนื่อง ตามแผนจะจัด 3 ครั้งในปีนี้ ครั้งแรกจัดที่ขอนแก่น และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จัดที่เชียงใหม่ และสงขลาเป็นจังหวัดสุดท้าย โดยทั้ง 3 จังหวัดมีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เปิดสาขาเพื่อให้บริการกับนักลงทุน โดยขอนแก่น มีจำนวน 16 สาขา, เชียงใหม่จำนวน 26 สาขา และสงขลาจำนวน 20 สาขา มีมูลค่าซื้อขายติดท็อป 5 โดยเชียงใหม่มูลค่าซื้อขายอยู่ติดอันดับ 2 ขอนแก่น มีมูลค่าซื้อขายติดอันดับ 4 และสงขลามีมูลค่าซื้อขายอันดับ 5” นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าว

ทั้งนี้ หากดูตัวเลขสถิติการทำผิดในตลาดทุนยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดกรณีของ STARK ที่ส่งผลกระทบวงกว้าง กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งขณะนี้ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ประเมินความเสียหายเกือบ 1 แสนล้านบาท ในส่วนของ สมาคมได้ทำหน้าที่ เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้น STARK และมีผู้เสียหายมาลงทะเบียนกว่า 1,759 ราย ที่จะดำเนินการ ต่อไปภายใต้ กฎหมาย Class Action กรณีนี้ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ลงทุนรายบุคคลจำนวนมากและเป็นวงกว้างและการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆจะเดินหน้าต่อไป  

ขณะที่ความคืบหน้าในการจัดตั้ง “ศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม - Class Action” ยังอยู่ในขบวนการจัดตั้งและอยู่ในการพิจารณาว่า มูลฐานความผิดที่จะเข้าข่ายและใช้ Class Action ได้ จะมีประมาณ 7 มูลฐานประกอบด้วย 1.ผิดสัญญา 2.การเปิดเผยข้อมูล 3.การเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต 4.การทุจริตของกรรมการและผู้บริหาร 5.การสร้างราคา 6.การใช้ข้อมูลภายใน และ 7.การครอบงำกิจการ   

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานในการเปิดงานสัมมนาสัญจร กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยและ ธปท.จัดสัญจรให้ความรู้ประชาชนเรื่องภัยการเงินและการลงทุน เชียงใหม่เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ เป็นเมืองที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจของภาคเหนือ ซึ่งภัยทางการเงิน และการลุงทน อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลากับทุกคน ดังนั้น การให้ความรู้ การมีมาตรการและเครื่องมือเข้ามาช่วยก็จะสามารถดูแลประชาชนได้  

นางพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดสัมมนาสัญจรเพื่อให้ความรู้เรื่อง ภัยทางการเงินและตลาดทุน เป็นความร่วมมือของ ธปท.ทั้ง 3 สำนักงาน คือ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา ร่วมมือกับ TIA เดินสายให้ความรู้กับประชาชน พร้อมรับมือกับภัยทั้งในตลาดเงินและตลาดทุนที่จะเกิดขึ้นได้ และ ธปท. มีบทบาทดูแลความมั่นคงระบบการเงิน ให้ความคุ้มครองผู้ใช้ทุกท่าน ดังนั้นความร่วมมือในการให้ความรู้กับประชาชนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
  
ทั้งนี้ สถิติการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1213 พี่น้องประชาชน สามารถร้องเรียนเข้ามาได้ทุกเรื่อง ทั้งหลอกลงทุน แก้ไขปัญหาหนี้ โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 มีประชาชนร้องเรียนเข้ามากว่า 5,000 สาย ขณะที่ปี 2565 อยู่ที่ 10,000 สาย เรื่องหลักๆ ที่ร้องเข้ามาคือ หลอกลงทุน แอบพลิเคชั่นกู้เงินนอกระบบ และนับตั้งแต่มี พรก.ที่เกิดขึ้นกับความร่วมมือ ของกระทรวงดีอี สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีผลบังคับใช้เมื่อ มี.ค 2566 ถึง 30 มิ.ย 2566 มี มูลค่า ความเสียหาย 6,000 ล้านบาทสามารถอายัดบัญชีได้ประมาณ 10%