Phones





BDMS โบรกฯ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาพื้นฐาน 37.40 บาท

2023-10-11 16:08:21 64



นิวส์ คอนเน็คท์ - บล.หยวนต้า ส่อง BDMS คาดกำไรปกติ Q3/66 ที่ 3,587 ล้านบาท โต 17% จากไตรมาสก่อน และโต 6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากการที่ธุรกิจเข้าสู่ high season ซึ่งจะมีไข้ตามฤดูกาล และการฟื้นตัวของคนไข้ทั้งใน และต่างประเทศ ส่วนแนวโน้ม Q4/66 ยังเติบโตดีต่อเนื่อง ภาพรวมปี 66 คงประมาณการกำไร 13,999 ล้านบาท เติบโต 11% คงคำแนะนำ "ซื้อ" คงมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 66 ที่ 37.40 บาท

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประทศไทย) ประเมินแนวโน้ม บริษัท กรุงเทพกรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS โดยคาดกำไรปก Q3/66 ที่ 3,587 ล้านบาท +17% (QoQ) และ +6% (YoY) โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้ 1) นอกจากจะเข้าสู่ high season ของอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีไข้ตามฤดูกาล เช่นไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก พบว่ามีการระบาดในวงกว้างของโรค RSVในเด็ก สูงกว่าปีก่อน 2) การฟื้นตัวของคนไข้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สำหรับคนไข้ไทย คาดรายได้เติบโต 7% YoY ถือว่าดีกว่าที่บริษัทคาดว่าจะเติบโต low single digit ขณะที่กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ รายได้เติบโต 11% YoY กลุ่มที่ฟื้นตัวดีเกิน 20% ได้แก่ ประเทศ กาตาร์, กลุ่ม UAE และประเทศจีน 3) รายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ที่หายไปตั้งแต่ H2/65 ทำให้เป็นการปรับฐานสู่ระดับเดียวกัน โดยรายได้รวมเติบโต 9.7% YoY เป็น 26,009 ล้านบาท 4) ประสิทธิภาพในการทำกำไรคาดอ่อนตัวลง YoY เนื่องจากต้นทุนพนักงานที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานไปตั้งแต่ปลายปีก่อน โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับเพิ่มขึ้น 12%YoY ขณะที่ EBITDA Margin ปรับลดลงจาก Q3/65 ที่25.3% เหลือ 22.5%

ส่วนแนวโน้ม Q4/66 คาดยังเติบโตดีต่อเนื่อง YoY โดยคนไข้ต่างชาติในเดือน ต.ค.ยังเห็นการเติบโตในระดับ double digit สำหรับผลกระทบจากประเด็นเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล แม้จะดูเป็น sentiment ลบต่อการท่องเที่ยว แต่คาดจะกระทบจำกัดต่อบริษัท กรณีถ้าเหตุการณ์ไม่ได้ลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ
ในตะวันออกกลาง โดย BDMS มีสัดส่วนลูกค้าตะวันออกกลางที่ 4% ของรายได้รวม ขณะที่มีลูกค้าที่มาจากอิสราเอลไม่ถึง 0.5% 

โดยภาพรวมปี 2566 ยังคงประมาณการกำไรที่ 13,999 ล้านบาท เติบโต 11% YoY ซึ่งหากกำไร Q3/66 เป็นไปตามที่คาด กำไรงวด 9 เดือนคิดเป็น 72% ของประมาณการทั้งปี คาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะเป็นไปตามที่คาดไว้ คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ทั้งนี้ ยังคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังที่คาดเติบโตดีต่อเนื่อง รับผลบวกเต็มปีจากการเปิดประเทศ ขณะที่ 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) ประมาณการรายได้เติบโตเฉลี่ย CAGR 7% โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตจากธุรกิจหลัก 1) การเติบโตจากธุรกิจเดิม (Organic Growth) ตามการฟื้นตัว
ของผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2) กลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าใหม่ อาทิ กลุ่มประกันสุขภาพและกลุ่ม Wellness & Residence สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) 3) แผนขยายโรงพยาบาล ทั้งสร้างใหม่และปรับปรุงขยายพื้นที่เดิม รวมถึงแผน M&A ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะ
เพิ่มจำนวนเตียงจดทะเบียน จากปัจจุบันที่ 8,400 เตียง เป็น 9,000 เตียงภายในปี 2570 ดังนั้น ยังคงมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2566 ที่ 37.40 บาท อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC ที่ 6.8%