Phones





NER ได้อานิสงส์ราคายางเด้ง โบรกฯ เคาะเป้าซื้อ 6.20 บาท

2023-10-16 09:32:49 138



นิวส์ คอนเน็คท์ - NER ได้อานิสงส์ราคายางปรับเพิ่มขึ้น หนุนผลงาน Q4/66 โตดีกว่าไตรมาสก่อน บวกกับความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอุตฯ ยืนเป้ายอดขายปีนี้ 5 แสนตัน โบรกฯ ส่อง ราคาหุ้นซื้อขายระดับพีอีต่ำแค่ 5 เท่านิดๆ แนะ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 6.20 บาท

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มผลดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/66 โดยคาดว่าจะมีทิศทางการเติบโตที่ดีกว่าไตรมาสก่อน ทั้งในแง่ของปริมาณการจำหน่าย และราคาจำหน่าย ซึ่งในไตรมาส 4/66 ราคายางพราคาปรับเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ราคาจำหน่ายในไตรมาส 1/67 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 30% จากไตรมาส 3/66

โดยราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้นตามดีมานด์ ภาวะฟื้นตัวของอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ อาทิ กลุ่มยานยนต์ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าตามแผนสนับสนุนของภาครัฐ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีแนวโน้มขยายตัว หนุนความต้องการใช้ยางในภาคก่อสร้างมากขึ้น เป็นต้น ส่งผลให้ทั้งปี 66 บริษัทยังมั่นใจว่าเป้าหมายปริมาณการจำหน่ายจะทำได้ไม่น้อยกว่า 500,000 ตันตามที่ตั้งไว้

นายชูวิทย์กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงได้รับคำสั่งซื้อจากจีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ออเดอร์ที่รอการส่งมอบ มีถึงไตรมาส 1/67 แล้ว โดยมองว่าจากกระแสของรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ความต้องการใช้ยางในการผลิตล้อรถมีเพิ่มขึ้น อีกทั้งด้วยสถานการณ์เอลนีโญ หรือสภาพร้อนแล้งที่เกิดขึ้น ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลต่อภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในปี 66-67 ที่อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำยางลดลง ส่งผลให้ตลาดล่วงหน้าหลายตลาดมีแนวโน้มที่จะทยอยขยับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนลงทุนโรงงานแห่งที่ 3 เพิ่มกำลังการผลิตยางอัดแท่งอีกประมาณ 172,800 ตัน จะใช้เงินลงทุนราว 700 ล้านบาท จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 568,400 ตัน หนุนกำลังการผลิตยางในภาพรวมเพิ่มเป็น 688,400 ตัน จากปีก่อนอยู่ที่ 515,600 ตัน 


ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์ไตรมาส 3/66 การทำกำไรของ NER อาจชะลอลง ทั้งจากไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคายางที่ปรับตัวลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ตลาดรับรู้แล้ว และอยู่ในประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์แล้ว ขณะที่ราคายางที่ปรับตัวขึ้นเร็วในช่วงเดือน ก.ย. และคาดว่าจะทรงตัวสูงต่อเนื่องในไตรมาส 4/66 ส่วนต้นทุนการผลิตยังมีสต๊อกเก่า และค่าไฟลดลง หนุนกำไรในไตรมาส 4/66 เติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนได้ครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส และในไตรมาส 1/67 กำไรมีลุ้นกลับไประดับมากกว่า 600 ล้านบาทได้

โดยทางฝ่ายวิเคราะห์ฯ มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มผลประกอบการของ NER หากสถานการณ์เอลนีโญ่ส่งผลชัดเจนมากขึ้นในเดือน ต.ค. ตามคาด คาดว่าจะส่งผลบวกต่อเนื่องต่อราคายางพารา เนื่องจากอุปสงค์ยางล้อยังมีอยู่ จากการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในไทยและจีน ขณะที่ราคาหุ้น NER ปัจจุบันซื้อขายที่ PER66-67 ต่ำเพียง 5.39 เท่า และ 5.37 เท่าตามลำดับ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 6.20 บาท