Phones





เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขยายไลน์อัพ EQE SUV รองรับการเติบโตของตลาด

2023-10-19 17:33:03 189



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทยอยเติมไลน์อัพอีวีให้ครบทุกเซกเมนต์ภายในปี 2025 เดินหน้าแนะนำรุ่นย่อยจากตระกูล EQE SUV อีก 2 รุ่น เปิดตัวครบ 3 รุ่นย่อย หลังเผยโฉม “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic” เมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา
 
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เราเดินตามวิสัยทัศน์ระดับโลกในการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ให้ครอบคลุมอยู่ในทุกเซกเมนต์ ภายในปี 2025 เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในปี 2030 ในการทำให้รถยนต์นั่งในพอร์ตของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ทั้งหมด โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมและสถานการณ์ในตลาดรถยนต์โดยรวมของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ ในประเทศไทย เรามีการแนะนำอีวีในหลายเซกเมนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกคน
 
นอกจาก 2 รุ่นล่าสุดอย่าง “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic” และ “Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+” ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “Ambition for the Future” และได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดจองผ่านช่องทางออนไลน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าชาวไทยมีความต้องการและมองหารถอีวีระดับลักชัวรี่ในรูปแบบเอสยูวีและรถอีวีสมรรถนะสูง ในครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยการเปิดตัวรุ่นย่อยในตระกูล EQE SUV อีก 2 รุ่น รวมเป็นทั้งหมด 3 รุ่น โดยทุกรุ่นจะนำเสนอความโดดเด่นตามแบบฉบับของ EQE SUV ซึ่งถูกออกแบบภายใต้นิยาม “Electric. Crafted by Mercedes-Benz” ชูจุดเด่นของรถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% ที่เหมาะกับการขับขี่ทุกรูปแบบ ทั้งในแบบ On-Road และ Off-Road รองรับกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่าง
 
สำหรับ EQE SUV เป็นรถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% ที่เปิดตัวในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นเริ่มต้น “EQE 350 4MATIC SUV Electric Art” รุ่นกลาง “EQE 350 4MATIC SUV AMG Line” และรุ่นท็อป “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic” โดยมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM (Permanently Excited Synchronous Motors) มอบกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 765 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 6.6 วินาที ติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันสูง 396V แบบLithium-ion ที่มีความจุมากถึง 89 kWh ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลกว่า 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% เพียง 32 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 9 ชั่วโมง 30 นาที