Phones





SCGP ประกาศปิด 2 ดีล M&P เสริมแกร่งธุรกิจบรรจุภัณฑ์

2023-10-27 19:49:48 87



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - SCGP เข้าซื้อหุ้น 100% ใน Law Print เพิ่มศักยภาพขยายช่องทางจำหน่ายและฐานลูกค้า และเข้าถือหุ้น 85% ใน Bicappa ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการในอิตาลี เพื่อขยายสู่ตลาดอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ “ปิเปตต์ทิป” และเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิต เตรียมรับรู้รายได้เดือน พ.ย. นี้ทันที
 
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า SCGP ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้น (Merger and Partnership: M&P) ทั้งหมด 100% ใน Law Print & Packaging Management Limited หรือ Law Print ผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองสต็อกพอร์ต (Stockport) สหราชอาณาจักร โดยการเข้าถือหุ้นดังกล่าวจะดำเนินการผ่าน SCGP Solutions (Singapore) Pte. Ltd. หรือ SCGPSS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด โดยใช้เงินลงทุน 10.68 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 475 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้นปี 2565 Law Print มีรายได้ 12.2 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 570 ล้านบาท มีกำไรรวมหลังหักภาษีประมาณ 2.7 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 125 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 6.5 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 300 ล้านบาท
 
สำหรับ Law Print เป็นผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ทั้งการออกแบบ จัดพิมพ์ ตรวจสอบรับประกันคุณภาพ การให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ และมีจุดเด่นในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและทำความเข้าใจเชิงลึก นอกจากนี้ Law Print สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายผู้จัดหาบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายฐานลูกค้าบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวของ SCGP สู่ลูกค้าในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป ตลอดจนจะได้รับประโยชน์จากการผสานความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกัน ทั้งการขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง (Cross-selling) ของบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer packaging products) ให้กับลูกค้าในกลุ่มบริษัทข้ามชาติ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Law Print
 
นอกจากนี้ บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นสัดส่วน 85% ใน Bicappa Lab S.r.L. หรือ Bicappa ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ รวมถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญการผลิตอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ “ปิเปตต์ทิป” (Pipette tips) ในเมือง Roletto (รอเลตโต) ประเทศอิตาลี และเป็นรายใหญ่ในทวีปยุโรป โดยใช้เงินลงทุนรวม 3.23 ล้านยูโร หรือประมาณ 125 ล้านบาท โดยจะดำเนินการผ่าน Deltalab, S.L. (Deltalab) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นสัดส่วน 85% ขณะที่ผลการดำเนินงานของ Bicappa ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2566 มีรายได้ 3 ล้านยูโร หรือประมาณ 115 ล้านบาท มีกำไรรวมหลังหักภาษี 0.62 ล้านยูโร หรือประมาณ 23.5 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ 2.4 ล้านยูโร หรือประมาณ 90 ล้านบาท
 
โดย Bicappa เป็นหนึ่งในผู้ผลิต Pipette tips รายใหญ่ในทวีปยุโรป ใช้ระบบเครื่องจักรอัตโนมัติในการผลิตและออกแบบแม่พิมพ์ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะทำให้ Deltalab สามารถเพิ่มกำลังการผลิต Pipette tips ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดขึ้นรูปสำหรับผลิตภัณฑ์ Auto-pipetting ที่มีความแม่นยำสูง อีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ของ SCGP ในอาเซียน และสร้างการเติบโตของธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในอนาคตได้
 
“SCGP ดำเนินงานตามกลยุทธ์ในการขยายการลงทุนเพื่อรักษาการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยการลงทุนในบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรครั้งนี้ จะช่วยเสริมแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้าและการขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ไปยังตลาดระดับโลก และการเข้าลงทุนในธุรกิจด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตจากการขยายฐานลูกค้า เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและต่อยอดธุรกิจได้ทั้ง Value Chain โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากทั้ง 2 ดีล ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 เป็นต้นไป” นายวิชาญ กล่าว