Phones





GUNKUL ท็อปฟอร์ม! Q3/66 กำไรพุ่ง 92% ปันผล 0.06 บ./หุ้น

2023-11-08 19:14:29 44



นิวส์ คอนเน็คท์ - GUNKUL ศักยภาพเปี่ยม โชว์ไตรมาส 3/66 กำไรสุทธิ 426.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.32% จากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจการขาย ธุรกิจก่อสร้าง รวมถึงปริมาณการผลิตไฟฟ้า และโครงการพลังงานลมเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.06 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 พ.ย. และ จ่ายปันผล 6 ธ.ค. 66 มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ตามนัด

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า เมื่อพิจารณากำไรจากการดำเนินงานตามปกติของกิจการ โดยไม่นับรวมกำไรจากการเปลี่ยนแปลงส่วนได้ส่วนเสียในบริษัทย่อยเป็นการร่วมค้า กำไรจากตราสารอนุพันธ์ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ และขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนเงินลงทุน จะเห็นได้ว่ากำไรสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 66 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 426.26 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันปีก่อนที่กำไรสุทธิ 221.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204.62 ล้านบาท หรือ 92.32% 

สำหรับงวด 9 เดือน ปี 66 กำไรจากการดำเนินงานปกติ 1,321.31 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันปีก่อนซึ่งมีกำไรเพียง 917.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 403.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.99%

โดยมีสาเหตุมาจากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจการขาย ธุรกิจก่อสร้าง รวมถึงปริมาณการผลิตไฟฟ้า โครงการพลังงานลมที่เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาส 3 และ 9 เดือน ถึงแม้บริษัทฯ จะถือสัดส่วนเพียง 50% แต่ยังสามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทได้อย่างมาก ส่งผลให้กำไรดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ

ทั้งนี้ จากความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และผลประกอบการที่ยังอยู่ในทิศทางที่ดี ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 535 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/66 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 22 พ.ย. 66 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 ธ.ค. 66 นี้

สำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์ม ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ซึ่งอยู่ในแผนการดำเนินการของบริษัทฯ คาดว่าโครงการแรกจะมีการจ่ายไฟฟ้าได้ในปี 69 

“บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพและภาพรวมธุรกิจในอนาคตว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่ดำเนินการอยู่ในทุกภาคส่วน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเติบโตของประเทศ และเทรนด์ธุรกิจด้านพลังงานในอนาคต ซึ่งปีนี้ยังเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%” นางสาวโศภชา กล่าว
 
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนโดยให้ความสำคัญต่อการรักษาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) และการกำกับดูแลกิจการที่ดีผ่านโครงการต่าง ๆ ทำให้ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน (THSI) และมีการกำกับดูแลที่ดีต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน