Phones





SEAFCO ราศีจับรับปีมังกร ลุ้นสอยงานรถไฟฟ้าสีส้ม โบรกเคาะเป้าราคา 4.70 บ.

2024-01-12 15:49:02 96



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - SEAFCO มั่นใจผลงานปี 67 โตต่อเนื่องจากปีก่อนที่คาดว่ารายได้รวมจะทำได้ราว 1.8 ล้านบาท เนื่องจากยังมี Backlog ที่เหลือจากปีก่อนอีกกว่า 1 พันล้านบาท รวมถึงโอกาสรับงานใหม่ต่อเนื่อง ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” SEAFCO ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท ประเมินกําไรปกติปี 67 ที่ 157 ล้านบาท ลุ้นรับงานรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงต้นปี
 
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2567 จะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากโอกาสในการรับงานใหม่ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐออกมาต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทยังมีงานในมือ(Backlog) ที่เหลือมาจากปีก่อนอีกกว่า 1 พันล้านบาท
 
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ที่ผ่านมามั่นใจว่าจะยังเห็นการเติบโตที่ดีทั้งรายได้และกำไรสุทธิ แต่อาจจะไม่เทียบเท่ากับไตรมาส 3/2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีวันหยุดยาวค่อนข้างมากในเดือนธ.ค. แต่คาดว่าในช่วงปลายปีนี้บริษัทมีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมมูลค่าไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2566 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทยังมี Backlog ที่เหลือมาจากไตรมาส 3/2566 อีกกว่า 1,100 ล้านบาท และยังจะมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปได้ถึงช่วงไตรมาส 2/2567
 
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กําไรไตรมาส 4/2566 ของ SEAFCO จะทำได้ราว 40-50 ล้านบาท ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้อยู่ในช่วงปลายโครงการ รวมถึงมีวันหยุดยาวจํานวนมาก โดยคาดรายได้จะยืนเหนือระดับ 400 ล้านบาท และอัตรากําไรขั้นต้นที่ 20-22%ส่งผลให้ประมาณการกําไรปกติปี 2566 อยู่ที่ 114 ล้านบาท มี Upside เบื้องต้นคาดจบปีนี้ที่ 150-160 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 133 ล้านบาทในปี 2565
 
สำหรับในปี 2567 ประมาณการกําไรปกติปี 2567 ที่ 157 ล้านบาท บนสมมติฐานรถไฟฟ้าสายสีส้มเซ็นสัญญาช่วงต้นปี หน้า และเริ่มงานก่อสร้างในไตรมาส 2/2567 โดยคาดหวัง SEAFCO ได้รับงานฐานรากราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทําให้โมเมนตัมกําไรในครึ่งปีหลังของปี 2567 โดดเด่นกว่าครึ่งปีแรกที่ต้องพึ่งพางานเอกชนขนาดเล็ก อาทิ คอนโด ตึกสูง ซึ่งมาร์จิ้นไม่สูง โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท