นิวส์ คอนเน็คท์ - STI คว้างานใหม่ คุมงานก่อสร้างงานศูนย์ราชการโซน C มูลค่า 520 ล้านบาท ดัน Backlog กระฉูด แตะ 2,000 ล้านบาท หนุนผลงานปี 63 เติบโตโดดเด่น
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เปิดเผยว่า ผลงานปี 63 จะเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนงานในมือจากภาคเอกชน 76 % และงานภาครัฐ 24%
โดยล่าสุดกลุ่ม SPC Consortium ภายใต้ความร่วมมือของ บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ ซึ่งเป็น Lead Firm พร้อมด้วย บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส และ บจ.คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี ได้ชนะประกวดราคางานจ้างควบคุมการก่อสร้าง โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C จำนวน 1 โครงการ มูลค่าคุมงาน 520 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.)
ส่งผลให้สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้า ในฐานะผู้นำกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้คุมงานโครงการใหญ่ของภาครัฐที่มีมูลค่าก่อสร้างสูงถึง 22,000 ล้านบาท อีกทั้ง เป็นการขยายฐานลูกค้ามายังหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจให้คุมงานก่อสร้างงานศูนย์ราชการฯ โซน C ภายใต้การบริหารของ SPC Consortium ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยมี STI เป็นแกนนำในครั้งนี้ เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้ และจะเป็นก้าวสำคัญในการขยายสู่ฐานงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันฐานลูกค้าของ STI ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่มีการพัฒนาโครงการอย่างสม่ำเสมอ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/62 สัดส่วนรายได้จากงานภาคเอกชนอยู่ที่ราว 85% และงานภาครัฐ 15%" นายสมเกียรติ กล่าว
“ขอให้มั่นใจในการทำงานของ STI ซึ่งบริษัทมีกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง กิจการของเราไม่ได้หวือหวา ไม่ได้เพิ่มผลประกอบการเพียงแค่เดือนสองเดือนขึ้นมาสองถึงสามเท่า ภาพของหุ้น STI ยังคงโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นคงจากแบ็กล็อคที่เรามี ธุรกิจของเราเป็นธุรกิจที่จะรับรู้รายได้อีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันเราดำเนินการอยู่เป็นงานที่ได้รับมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทางภาวะเศรษฐกิจจะกระทบกับธุรกิจเราเป็นลำดับสุดท้าย เพราะธุรกิจที่มีการก่อสร้างแล้วจะมีการผลักดันให้มีการก่อสร้างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งหากถ้าเทียบกับธุรกิจภาคอื่นๆ ถือว่ามีความเสี่ยงน้อยที่สุด และสามารถมั่นใจได้ว่าผลประกอบการของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าแน่นอน” นายสมเกียรติ กล่าว
>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews