Phones





TEKA ตุน Backlog 2,500 ล้านบ. รุกชิงประมูลอีก 1 หมื่นล.

2024-03-05 13:53:58 390



นิวส์ คอนเน็คท์ - TEKA ครบรอบปีที่ 40 ยืนหนึ่งด้านการก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 5-10% ต่อปี ยืนหยัดคุณภาพ – มาตรฐานที่ดี กาง Backlog กว่า 2,500 ล้านบาท รับรู้ในปี 67-68 พร้อมยื่นประมูลงานใหม่กว่า 10,000 ล้านบาท มั่นใจได้งานราว 2,000 ล้านบาทเข้ามาเติมพอร์ต

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่า ปีนี้นับเป็นปีที่พิเศษมากสำหรับฑีฆาก่อสร้าง เนื่องจากเป็นวาระครบรอบ 40 ปี โดยบริษัทฯ ยืนหยัดงานก่อสร้างด้วยคุณภาพและมีมาตรฐานที่ดี นับจากวันที่เริ่มก่อตั้งเมื่อ 10 มกราคม 2527 โดยทีมงานวิศวกรรับเหมาก่อสร้างอาคารมากประสบการณ์กับกระบวนการทำงานอย่างมีระบบ และสร้างสรรค์นวัตกรรมการทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัท ฯ มีผลงานโดดเด่น ได้รับการยอมรับเสมอมา โดย TEKA มุ่งมั่น นำความรู้ประสบการณ์ ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ สร้างผลงานเพื่อความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า

"เราคือผู้นำด้านการก่อสร้างอาคาร คุณภาพดีมีมาตรฐานอย่างแท้จริง เราพร้อมสร้างทุกความสำเร็จ เพื่ออนาคตที่กำหนดได้ BUILDING SUCCESS, SHAPING THE FUTURE" 

โดยตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ได้เผชิญกับหลากหลายเหตุการณ์สำคัญ แต่ TEKA ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการให้ความสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัท ฯ และสามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ภายในเวลาที่กำหนด เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
 
สำหรับกลยุทธ์ที่บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาเพื่อรักษาและเสริมสร้างความไว้วางใจ จะมุ่งเน้นทั้งหมด 3 ส่วน คือ 1. Business Growth โดยรักษาฐานลูกค้าเดิม หาตลาดงานก่อสร้างใหม่ ๆ ลงทุนขยายธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต บริหารความเสี่ยงเพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน 2. Smart People มีการปรับโครงสร้างองค์กร มุ่งพัฒนาบุคลากร และบริหารกำลังพลให้มีประสิทธิภาพ และ3. Innovative Culture พร้อมสร้าง และพัฒนาองค์กรด้วยนวัตกรรม

ด้านนายสุพล จงจินตรักษา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน กล่าวเสริมถึงด้านการเงิน และมุมมองการเงินที่แข็งแกร่ง ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5 – 10% ต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 10% โดยในปี 2566 มีรายได้จากการก่อสร้างอยู่ที่ 2,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.30% จากปี 2565 มีรายได้อยู่ที่ 1,933 ล้านบาท และเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่ารายได้จากงานรับเหมาก่อสร้างไว้ไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้ในปี 2566 มาจากการเติบโตของรายได้โครงการใหม่ โดย ณ สิ้นปี บริษัทฯ มี Backlog อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท สามารถรองรับรายได้สำหรับปี 2567 - 2568 โดยคาดว่าใน 2567 จะรับรู้ประมาณ 1,700 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังหางานใหม่เข้ามาเติม Backlog อยู่ตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นประมูลงานไปแล้วราว 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานในสัดส่วน 20% หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ในช่วงครึ่งปีแรก ราว 1,000 ล้านบาท และครึ่งปีหลังอีก 1,000 ล้านบาท
 
"ฐานะทางการเงินของ TEKA ถือว่า แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทยังคงรักษาความแข็งแกร่งด้านการเงิน และไม่มีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ยืมในการดำเนินงาน ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ทั้งความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจ ทั้งจากเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง รวมถึงทางบริษัทฯ พร้อมที่จะขยายงาน เพิ่มทีมงาน และเตรียมเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง" นายสุพล กล่าว

นายณัฐวัฒน์ ภาสุกุลพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานวิศวกรรมและประกันคุณภาพ กล่าวถึงความเชี่ยวชาญ และคุณภาพงานการก่อสร้างของบริษัทฯ ว่า กลยุทธ์ที่จะครองใจลูกค้าทั้ง Developer และ Construction Management คือ Quality Policy หรือ นโยบายคุณภาพ โดยนําระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 มาประยุกต์ใช้เพื่อให้มีคุณภาพในการทำงาน และเกิดการทำงานตามมาตรฐานสากล พร้อมยกระดับมาตรฐาน และความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความสำคัญด้าน QA Department โดยหน่วยงานคอยดูแลและตรวจสอบคุณภาพ สามารถการันตีได้ว่างานก่อสร้าง สามารถตอบสนองความต้องการทางด้านคุณภาพได้ตามตกลง ซึ่งเป็นการรับประกันที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ลูกค้าจะได้รับงานและบริการที่มีคุณภาพจาก TEKA

นางศิริวรรณ ศักดิ์สุริยา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบริหาร กล่าวถึงความพร้อมสู่ความยั่งยืนว่า TEKA มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างเสถียรภาพและความยั่งยืนให้กับองค์กร โดยองค์กรให้ความสำคัญเรื่องบุคลากร เช่น การสร้างคน การพัฒนาคน ในมิติความยั่งยืน ภายใต้รากฐานสำคัญในการทำงานขององค์กร คือ TEKA’S Core Value T = Teamwork การทำงานเป็นทีม E = Excellence ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน K = Knowledge Improvement การหมั่นฝึกฝน และใฝ่หาองค์ความรู้ใหม่ ๆ วิธีการใหม่ ๆ มาปรับใช้ให้ได้งานที่บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ A = Accountability มีความรับผิดชอบ และ S = Sustainability การส่งมอบงานคุณภาพอย่างยั่งยืน อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านการก่อสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งด้านการบริหารจัดการ การเพิ่มคุณภาพ และการทำงานที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเล็งเห็นความสำคัญทางด้าน Sustainability จึงได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพข้อมูลความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน ซึ่งครอบคลุม ทั้ง ESG (Environmental, Social, Governance : ESG) หรือโครงการความยั่งยืนที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยิ่งเป็นสิ่งตอกย้ำว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับทุกมิติของสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเป็นบริษัทฯ ที่มีคุณภาพ พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป