Phones





PREB ตุน Backlog 8.2 พันล. รับรู้รายได้ยาว 2-3 ปี

2024-03-22 09:51:30 413



นิวส์ คอนเน็คท์ - PREB ฐานแน่นตุน Backlog 8.2 พันล้านบาท รับรู้รายได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า ฟากบิ๊กบอส “วิโรจน์ เจริญตรา” ประกาศลุยธุรกิจอสังหาฯ เต็มสปีด ผลักดันผลงานโดยรวมเติบโตต่อเนื่อง ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร BBB แนวโน้ม Stable ประเมิน EBITDA เพิ่มขึ้น ลุยธุรกิจอสังหาฯ หนุนอนาคตเติบโตยั่งยืน 

บมจ.พรีบิลท์ หรือ PREB ฐานแน่น ตุน Backlog 8.2 พันล้านบาท หนุนอนาคตยั่งยืน ขณะที่ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร “BBB” แนวโน้ม “Stable” เนื่องจากมีผลงานเป็นที่ยอมรับโดยเฉพาะงานก่อสร้างอาคารสูง ประเมินรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มมาอยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาทในช่วงปี 2567-2568 ขณะที่ EBITDA มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สภาพคล่องอยู่ในระดับที่ดี 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นปี 2566 จำนวน 8,200 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า และพร้อมจะขยายงานด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนผลการดำเนินงานทั้งรายได้และกำไรให้เติบโตเพิ่มขึ้นในระยะยาว

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 4 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “พรรณนา” และ “พิมนารา” ซึ่งมีมูลค่ารวม 2.8 พันล้านบาท และยังมีโครงการทาวเฮ้าส์ภายใต้แบรนด์ “พรี วิลเลจ” อีก 1 โครงการมูลค่า 0.7 พันล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีที่ดินอีก 2 แปลงในบริเวณ ถ.สุขุมวิท 24 และ ถ.สุขุมวิท 26 มูลค่ารวม 1.1 พันล้านบาท ที่จะใช้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมด้วยเช่น

ด้าน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่เป็นที่ยอมรับของบริษัทฯ ในงานก่อสร้างโครงการอาคารสูง ตลอดจนภาระหนี้ที่อยู่ในระดับปานกลาง และสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอ โดยคาดว่าในช่วง 3 ปีข้างหน้ารายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะอยู่ที่ระดับ 3.7-4.7 พันล้านบาทต่อปี รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์น่าจะอยู่ที่ระดับ 450-700 ล้านบาทต่อปี ส่วน EBITDA ต่อรายได้ (EBITDA Margin) นั้นคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 8%-9% ในขณะที่ EBITDA จะเพิ่มขึ้นเป็น 550 ล้านบาทในปี 2568 จาก 350 ล้านบาทในปี 2566 และเงินทุนจากการดำเนินงานน่าจะอยู่ในช่วง 300-350 ล้านบาทต่อปีในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า 

“การที่ทริสฯ จัดอันดับองค์กรให้อยู่ในระดับ BBB นั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ตอกย้ำความเข้มแข็งในด้านฐานการเงินของบริษัท ซึ่งมีความพร้อมขยายการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และสามารถผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตในระยะยาว รวมทั้งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในทุกๆ ปี” นายวิโรจน์ กล่าว