Phones





TKS แย้มผลงาน Q1 สดใส หวังรายได้ปี 67 โต 14%

2024-03-24 20:13:45 214



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - TKS คาดผลงานโค้งแรกเติบโตมากกว่าไตรมาส 4/66 พร้อมลุ้นรายได้ปีนี้โต 14% ชี้ธุรกิจฉลากและบรรจุภัณฑ์มีโอกาสเติบโตสูง ขณะที่สินค้าประเภท Security Label ยังมีโอกาสเติบโตได้ดี ชูกลยุทธ์ Tech Ecosystem Builder สร้างรากฐานการเติบโตที่แข็งแกร่งในระยะยาว แย้มปีนี้มีดีลใหญ่ซื้อกิจการสายธุรกิจ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น
 
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2567 นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2567 มีโอกาสเติบโตที่ดีจากยอดขายในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมาดีกว่าที่คาดไว้ และจะจะเติบโตมากกว่าไตรมาส 4/2566 ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนกิจการใหม่ (M&A) ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ platform solution เพื่อมาต่อยอดการเติบโตของกลุ่มบริษัท ซึ่งเป็นเป้าหมายของบริษัทในการเดินหน้ากลยุทธ์ Tech Ecosystem Builder เพื่อก้าวสู่โลกดิจิทัล ที่ผ่านมาได้สร้าง Ecosystem ไว้จำนวนมาก เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
 
สำหรับผลงานปี 2567 จะเห็นการฟื้นตัว ทั้งธุรกิจฉลากและบรรจุภัณฑ์ (Label& Packaging Solutions) ที่ยังมีโอกาสเติบโต มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง จากการทยอยส่งมอบงานที่อยู่ในมือ รวมไปถึงการผลักดัน Security Label ที่สามารถเติบโตได้ดี เป็นโซลูชั่นที่มีโอกาสเติบโตอย่างมาก เป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริม ขณะที่ผลประกอบการของบมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX จะเห็นผลประกอบการกลับมาฟื้นตัวขึ้น โดยมาจากทั้งในส่วนของแบรนด์ Huawei ที่จะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ การเปิดตัว Nintendo Switch by Synnex อีกทั้งในส่วนของ Samsung S24 ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก เป็นส่วนช่วยผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
 
“ปีนี้ถือว่าเป็นปีของการฟื้นตัว คาดว่ารายได้เติบโตราว 14% จากปีก่อน และยังมีงานที่ส่งมอบ โดยธุรกิจแพ็กเกจจิ้งก็ถือว่ามีความแข็งแกร่ง ผลประกอบการสามารถเติบโตไปได้ ที่ผ่านมาบริษัทมีการกระจายความเสี่ยง (Diversify) ธุรกิจให้มีความหลากหลาย เพื่อรองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็มีการพิจารณาการลงทุน M&A ต่อเนื่อง” นายจุติพันธุ์ กล่าว
 
ทั้งนี้ บริษัทยังเดินหน้าตามกลยุทธ์ Tech Ecosystem Builder โดยมุ่งเน้นการปรับแผนธุรกิจของบริษัทฯมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการพัฒนานวัตกรรมด้านระบบสารสนเทศ และได้ปรับโครงสร้างองค์กรในกลุ่มบริษัทฯให้เกิดผลผนึกทั้งด้านการพัฒนาตลาดและผลิตภัณฑ์ และด้านการลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยรวมสำหรับรักษาฐานธุรกิจเดิมควบคู่ไปกับการหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่
 
ล่าสุด คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ครั้งที่ 2 โดยมีจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 30,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 5.90% ของหุ้นที่จดทะเบียนและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายในวงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงินโดยเป็นการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีระยะเวลาซื้อหุ้น คืน 6 เดือน นับแต่วันที่ 29 ก.พ. - 28 ส.ค. 2567