Phones





SCB EIC แนะภาคอสังหาฯปรับตัวรับ ‘Hybrid workplace’

2024-03-24 20:55:09 68



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – SCB EIC ประเมินภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย จับตารูปแบบการทำงานในอนาคตที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป คาดการทำงานรูปแบบ “Hybrid workplace” ยังถูกใช้ต่อไปในอนาคต ท่ามกลางความท้าทายและการปรับตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย
 
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2567 นายเชษฐวัฒก์ ทรงประเสริฐ นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB EIC เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันการแพร่ระบาดของ COVID-19 บรรเทาลง รวมถึงผู้คนสามารถปรับตัว และมีวิถีชีวิตเป็นปกติแล้ว ส่งผลให้บริษัททั้งในต่างประเทศและในไทย เริ่มมีนโยบายให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้น โดยกำหนดให้มีสัดส่วนจำนวนวันที่ต้องเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศมากกว่าวันที่ทำงานจากที่บ้าน จึงกล่าวได้ว่ารูปแบบการทำงานยังเป็นการผสมผสานการทำงานที่ออฟฟิศและที่บ้าน หรือเป็น Hybrid workplace โดยเป็น Office-based
 
ทั้งนี้ การทำงานรูปแบบ Hybrid workplace ยังมีแนวโน้มถูกใช้อยู่ต่อไปในอนาคต โดยยังต้องจับตาเทรนด์ในระยะข้างหน้า เช่น หากกลุ่ม Gen Z ที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น และนิยมการทำงานรูปแบบ Work from anywhere ก็อาจทำให้รูปแบบการทำงานของบริษัทในระยะต่อไป กลับมาถูกปรับให้มีสัดส่วนจำนวนวันทำงานจากที่บ้าน หรือจากที่ไหนก็ได้มากขึ้น หรืออาจมีการลดจำนวนวันทำงาน หรือชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ลง โดยไม่ลดเงินเดือน รวมถึงเทรนด์ Workcation ซึ่งยังเป็นโอกาสของตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ ประกอบกับกลุ่ม Gen Z จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานในอนาคต โดยเฉพาะความสนใจในการประกอบอาชีพอิสระ
 
ดังนั้น การพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า และโครงการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับการทำงานอาชีพอิสระ อย่างสตูดิโอที่สามารถรองรับกิจกรรมต่าง ๆ ก็จะสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อดึงดูดการเช่าหรือซื้อได้
 
นอกจากนี้ Hybrid workplace เป็นอีกแรงกดดันให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ทั้งกลุ่มพื้นที่สำนักงานให้เช่า และกลุ่มที่อยู่อาศัยต้องปรับกลยุทธ์ ทั้งในแง่รูปแบบพื้นที่ การอยู่อาศัย ไปจนถึงการบริหารสัญญาเช่า โดยตลาดพื้นที่สำนักงานให้เช่าในไทยได้รับผลกระทบ ทั้งความต้องการเช่าพื้นที่ชะลอตัวลง และการปรับเปลี่ยนรูปแบบพื้นที่ เพื่อเอื้อต่อการทำงานรูปแบบ Hybrid workplace ส่งผลให้ผู้ประกอบการอาคารสำนักงานให้เช่าต้องปรับปรุงรูปลักษณ์ และระบบสาธารณูปโภค สร้างความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ พัฒนาพื้นที่รูปแบบใหม่ ๆ ไปจนถึงปรับรูปแบบสัญญาเช่า โดยในอนาคต มีแนวโน้มการผสมผสานพื้นที่สำนักงานกับคอนโดมิเนียมเข้าด้วยกันมากขึ้น รวมถึงมีโอกาสพัฒนาโครงการในพื้นที่ใหม่ ๆ เป็นรูปแบบ Home office
 
ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยนั้น การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้คนยังคำนึงถึงปัจจัยทั้งการเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศ และปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนด้านการทำงานอยู่ที่บ้าน ส่งผลให้ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแข่งขันกันยกระดับการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้สามารถสนับสนุนด้านการทำงานอยู่ที่บ้านให้มีประสิทธิภาพ โดยในอนาคต ผู้ประกอบการมีแนวโน้มยกระดับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียมให้รองรับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนา Smart home