Phones





OSP ตั้งเป้าเพอร์ซันนัลแคร์แตะ 4 พันล. รุกชิงมาร์เก็ตแชร์ทุกเซกเมนท์

2024-04-03 20:43:09 514



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - OSP เดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่อง ใช้นวัตกรรมคิดค้นและต่อยอดจุดแข็งของแฟลกชิปแบรนด์ พร้อมขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าให้ครอบคลุมผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ เตรียมจัดเต็มกลยุทธ์การตลาด ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ตั้งเป้าผลิตภัณฑ์กลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์เติบโต 4 พันล้านบาท ภายในปี 2570
 
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 นางสาวสุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Home & Personal Care and Health Care Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เพอร์ซันนัลแคร์และโฮมแคร์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับตลาดผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ที่พร้อมขยายตัวตอบรับการใช้ชีวิตนอกบ้าน เทรนด์ความงาม และการดูแลตัวเองที่เริ่มกลับมาอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โอสถสภาได้มีการศึกษาเทรนด์และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคอยู่เสมอ พร้อมมองหาโอกาสและวางกลยุทธ์สร้างสรรค์สินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างทันท่วงที โดยผสานจุดแข็งด้านความอ่อนโยนและความหอม วางกลยุทธ์การตลาดขยายการเติบโตทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อครองใจกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างเหนียวแน่นและพร้อมขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่
 
สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่ม House of Mildness ที่มี ‘เบบี้ มายด์’ เป็นแบรนด์ชูธง ครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สบู่เหลวอาบน้ำเด็กอย่างแข็งแกร่งด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 38.3% ในปีที่ผ่านมาได้ปรับกลยุทธ์การตลาดเจาะอินไซต์คุณแม่ ด้วยความเข้าใจถึงความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่มุ่งเน้นในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดและต้องการให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีและเติบโตอย่างมีความสุข เบบี้ มายด์ จึงได้ปรับ Brand proposition ใหม่ “The Power of Gentle Touch พลังสัมผัสอันอ่อนโยน สานสัมพันธ์ให้แข็งแรง” พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ด้วยสูตรใหม่“เอสเซ้นส์ออร์แกนิก 100%” ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก และในไตรมาส 2/2567 เบบี้ มายด์ เตรียมปล่อยแคมเปญ “Momchestra” เปิดออดิชั่น ชวนคุณแม่ร่วมส่งคลิปร้องเพลงกล่อมลูกเข้านอน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในหนังโฆษณาเบบี้มายด์ ตอกย้ำแนวคิดไม่มีใครที่จะทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและหลับได้ที่สุดเท่ากับแม่
 
ขณะที่ในปีที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแบรนด์ ‘อัลตร้ามายด์ บาย เบบี้มายด์ ที่ผสานความอ่อนโยนและความหอม ครอบคลุมตั้งแต่ ครีมอาบน้ำสำหรับผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม ผลิตภัณฑ์ล้างจาน และล่าสุด ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ซึ่งเป็นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟวางจำหน่ายเฉพาะที่ร้านวัตสันและได้ผลตอบรับที่ดีมาก นอกจากนี้ยังได้ขยายกลยุทธ์ด้านการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยใช้ศักยภาพด้านการกระจายสินค้าของโอสถสภาผ่านกว่า 400,000 ร้านค้าทั่วประเทศ และขยายสู่ช่องทางอีคอมเมิร์ซเพื่อตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลา โดย เบบี้ มายด์ สามารถครองตำแหน่งสินค้าผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลผิวเด็กยอดขายอันดับ 1 บนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee โดยปัจจุบัน เบบี้ มายด์ มียอดขายจากช่องทางดังกล่าวเติบโตขึ้นถึง 7 เท่า หรือ 693% นับจากปีแรกที่เริ่มขายบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ
 
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม House of Beauty แบรนด์ ‘ทเวลฟ์พลัส’ และ ‘เอ็กซิท’ มีการเติบโตต่อเนื่อง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตนอกบ้านที่กำลังเติบโต โดยโอสถสภามีจุดแข็งด้านการใช้น้ำหอมที่มีคุณภาพสูง และสร้างความแตกต่างผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้สามารถระงับกลิ่นกายได้ยาวนานตลอดวัน ดูแลสุขภาพผิวใต้วงแขนอย่างอ่อนโยน ลดริ้วรอยใต้วงแขน ขาวกระจ่างใส และแห้งไว ผลักดันให้แบรนด์ ‘ทเวลฟ์พลัส’ เป็นผู้นำอันดับ 2 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายสำหรับผู้หญิง ด้วยส่วนแบ่งตลาด 10.7% ด้าน ‘เอ็กซิท’ ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์โรลออนสำหรับผู้ชาย
 
ล่าสุด ทเวลฟ์พลัสได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ทเวลฟ์พลัส โรลออน สมูท เรเดียนซ์ ไฮยา” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีนำสมัย Hy-N (ไฮ-เอ็น) นวัตกรรมไบโอพอลิเมอร์ ช่วยนำส่งส่วนผสมให้มีประสิทธิยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับแนบโซลูท (Nabsolute) สตาร์ทอัพก่อตั้งโดยทีมงานวิจัยที่มีความรู้จากคณะเภสัชศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับช่องทางการขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟอื่นๆ เช่น Twelve Plus Brightening Perfume Lotion โลชั่นน้ำหอมกลิ่นเคาน์เตอร์แบรนด์ในราคาที่เข้าถึงได้ มีวางจำหน่ายในร้านวัตสันเท่านั้น รวมถึงการ collab ข้ามแบรนด์ของ ทเวลฟ์พลัส กับ เบบี้มายด์ เป็นผลิตภัณฑ์โคโลญกลิ่นแป้งเด็ก วางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
 
“โอสถสภา ก้าวสู่ความเป็นผู้นำของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในบ้าน และพร้อมรุกตลาดอย่างเต็มที่ โดยสร้างความแข็งแกร่งของตราสินค้าหลักและขยายไปยังกลุ่มสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดที่มีศักยภาพ อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนสำหรับผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ เตรียมแตกไลน์สินค้าและออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับทุกคนในครอบครัวที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน รองรับโอกาสทางการตลาดที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง พร้อมแผนกลยุทธ์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ครองใจกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างเหนียวแน่น และขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดในเซ็กเมนต์อื่นๆ ตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตระยะยาวของโอสถสภา” นางสาวสุทิพา กล่าว